ตัวแทนจากกรมทางหลวงและบริษัทที่ปรึกษา ได้นำเสนอผลการสำรวจและออกแบบรายละเอียด มาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เป็นรูปธรรม โดยสรุปรูปแบบเส้นทางออกเป็น 2 ช่วง คือ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษ หมายเลข 81 สายบางใหญ่ — บ้านโป่ง และสายบ้านโป่ง — กาญจนบุรี ซึ่งรูปแบบของทางหลวงพิเศษช่วงบางใหญ่ — บ้านโป่ง จะมีลักษณะเป็นทางหลวงขนาด 6 ช่องจราจร ขณะที่รูปแบบทางหลวงพิเศษช่วงบ้านโป่ง — กาญจนบุรี เป็นทางหลวงขนาด 4 ช่องจราจร โดยเส้นทางทั้ง 2 ช่วง จะมีความกว้างของช่องจราจรเท่ากันที่ 3.6 เมตร
ทั้งนี้ กรมทางหลวงและบริษัทที่ปรึกษายังได้จัดทำแบบสอบถามสำรวจความคิดเห็นจากผู้ที่เข้าร่วมประชุมใน 3 จังหวัด โดยผลจากการตอบแบบสอบถามพบว่า ประชาชนร้อยละ 50.8 เห็นว่าทางหลวงพิเศษ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี จะช่วยลดระยะทาง และเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางได้ ขณะที่ประชาชนร้อยละ 67.5 มีความกังวลต่อผลกระทบด้านการเวนคืน และการโยกย้ายที่อยู่
นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมยังได้เสนอความคิดเห็นอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ต้องการให้เพิ่มจุดทางลอด ทางข้าม ทางบริการชุมชน และจุดเชื่อมต่อระหว่างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองกับทางบริการชุมชน และถนนสายหลักในพื้นที่ ให้มากที่สุด รวมถึงต้องการให้กรมทางหลวงจัดหาที่ดินในบริเวณใกล้เคียงให้กับประชาชนที่ถูกเวนคืน ซึ่งกรมทางหลวงได้รับความเห็นและข้อเสนอแนะทั้งหมดไว้ และนำไปพิจารณาประกอบผลการศึกษา เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่มากที่สุด และก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมน้อยที่สุด
ภายหลังดำเนินการศึกษาความเหมาะสมแล้วเสร็จ ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และจากนั้นจึงเป็นขั้นตอนของการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี
โครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 บางใหญ่-กาญจนบุรี นับเป็นอีกเส้นทางสำคัญ ที่นอกจากช่วยลดระยะทาง และเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง ก่อให้เกิดการเชื่อมโยงระดับภูมิภาคแล้ว ยังจะช่วยเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคอาเซียนต่อไปในอนาคต
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-5099091-2 ต่อ 112 บ.ดาวฤกษ์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด