นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CGS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นของ บริษัท เซาท์เทิร์นสตีล จำกัด (มหาชน) (2S) กล่าวว่า หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้นของ 2S ซึ่งเปิดให้จองซื้อหุ้นเป็นวันแรก ในวันที่ 19 สิงหาคม 2552 พบว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก จนทำให้มั่นใจได้ว่าในช่วง 3 วันทำการที่เปิดให้จองซื้อหุ้นดังกล่าว (วันที่ 19-21 สิงหาคม 2552) จะสามารถขายหุ้นเพิ่มทุนได้หมดทั้งจำนวน เนื่องจากมีการกำหนดราคาไอพีโอที่เหมาะสม ทำให้มั่นใจว่าหุ้นเพิ่มทุนของ 2S จะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุน และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หุ้นของ บมจ.เซาท์เทิร์น สตีล ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างท่วมท้นตั้งแต่วันแรกดังกล่าว
“ราคาเสนอขายหุ้นให้กับนักลงทุนถือเป็นราคาที่น่าลงทุน โดยมีค่า P/E ไม่เกิน 5 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E ของตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ย้อนหลัง 3 เดือน ซึ่งมีค่าประมาณ 13 เท่า โดยการระดมทุนในครั้งนี้จะทำให้ฐานทุนของบริษัทเข้มแข็งขึ้น อีกทั้ง 2S มีแผนที่จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ซึ่งจะผลักดันให้ผลประกอบการมีอัตราการเติบโตที่ดีต่อเนื่องในอนาคต จึงมั่นใจว่าหุ้นตัวนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” นายชูพงศ์กล่าว
นายแสงรุ้ง นิติภาวะชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซาท์เทิร์นสตีล จำกัด (มหาชน) (2S) กล่าวว่าการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคับคั่ง คาดว่าเป็นผลมาจากบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานที่โดดเด่น มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนั้นสัดส่วนหนี้สินต่อทุนของ 2S อยู่ในอัตราที่ต่ำมาก โดยสิ้นสุดไตรมาส 2/2552 อยู่ที่ 0.63 เท่า และหลัง IPO จะอยู่ที่ 0.49 เท่า ที่สำคัญเงินที่ได้ จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจให้มีการเติบโตและพัฒนาศักยภาพของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมไปถึงเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต
"วันแรกที่เปิดให้จองซื้อหุ้น IPO ของ “เซาท์เทิร์นสตีล” ทราบว่านักลงทุนสนใจจองซื้อเป็นจำนวนมาก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อหุ้น 2S ซึ่งมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ที่ผ่านมาสามารถยืนหยัดและก้าวผ่านวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นหลายครั้งในรอบ 17 ปี นับแต่ก่อตั้งบริษัทและดำเนินธุรกิจจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของคณะผู้บริหารที่พร้อมผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตต่อเนื่องไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงต่อไป" นายแสงรุ้งกล่าว
ทั้งนี้ หุ้น IPO ของ บริษัท เซาท์เทิร์นสตีล จำกัด (มหาชน) (2S) จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 2 กันยายน 2552 โดยได้กำหนดราคาหุ้นที่ 1.90 บาทต่อหุ้น
ข้อมูล บริษัท เซาท์เทิร์นสตีล จำกัด (มหาชน)
บริษัท เซาท์เทิร์นสตีล จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กแผ่น ท่อเหล็ก เหล็กรางรูปตัวซี ลวดตะแกรงเหล็ก และผลิตภัณฑ์เหล็กรูปพรรณอื่นๆ เช่น เหล็กฉากพับ เหล็กแบนตัด เหล็กตัวซีพับ และเหล็กรางพับให้แก่ลูกค้าในภาคใต้ของประเทศและประเทศมาเลเซีย โดยมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 145,800 ตันต่อปี(ไม่รวมกำลังการผลิตของเหล็กม้วนแถบเล็ก) ซึ่งแบ่งเป็นกำลังผลิตของเหล็กแผ่น (Steel Sheet) ประมาณ 30,000 ตันต่อปีเหล็กตัวซีประมาณ58,000 ตันต่อปีท่อเหล็กประมาณ 48,000 ตันต่อปีเหล็กแบนพับประมาณ 5,000 ตันต่อปีและลวดตะแกรงเหล็ก (Wire Mesh)ประมาณ 4,800 ตันต่อปี นอกจากนี้บริษัทยังดำเนินธุรกิจซื้อมาและจำหน่ายไปผลิตภัณฑ์เหล็กรูปพรรณอื่นๆ ที่บริษัทไม่ได้ผลิตเอง เช่น ท่อเหล็กชุบสังกะสีเหล็กฉาก เหล็ก H-Beam เหล็ก I-Beam เหล็กรางน้ำ เหล็กแผ่นลาย เหล็กม้วน และเหล็กเพลาขาว เป็นต้น หรือท่อเหล็ก เหล็กรางรูปตัวซีและลวดตะแกรงเหล็กซึ่งมีขนาดที่บริษัทไม่สามารถผลิตเองได้
บริษัท นีสเทิร์นสตีล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดย 2S ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 90 ล้านบาท ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กแผ่น ท่อเหล็ก เหล็กรางรูปตัวซี รวมทั้งดำเนินธุรกิจซื้อมาและจำหน่ายไปผลิตภัณฑ์เหล็กรูปพรรณอื่นๆ เช่น ท่อเหล็กชุบสังกะสีเหล็กฉาก เหล็ก H-Beam เหล็ก I-Beam เหล็กรางน้ำ เหล็กแผ่นลาย เหล็กม้วน และเหล็กเพลาขาว เป็นต้น หรือท่อเหล็ก และเหล็กรางรูปตัวซี ซึ่งมีขนาดที่บริษัทย่อยไม่สามารถผลิตเองได้ ให้แก่ลูกค้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 137,000 ตันต่อปี (ไม่รวมกำลังการผลิตของเหล็กม้วนแถบเล็ก) ซึ่งแบ่งเป็นกำลังผลิตของเหล็กแผ่น (Steel Sheet) ประมาณ 30,000 ตันต่อปี เหล็กตัวซีประมาณ 80,000 ตันต่อปีท่อเหล็กประมาณ 27,000 ตันต่อปี
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
IR PLUS : คุณจุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) Tel 02-5549395 // E-mail : [email protected]