โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลแบบตติยภูมิ (Tertiary-care Hospital) ที่เพียบพร้อมด้วยแพทย์เฉพาะทางครบทุกสาขา ทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาทเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลผู้ป่วยทุกโรครวมถึงโรคที่มีความซับซ้อนมาก พร้อมเปิดศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดของไทยเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการเวชศาสตร์ฟื้นฟูชั้นนำของเอเชีย
นายแพทย์ดุลย์ ดำรงศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า “สมิติเวชศรีนครินท์มีศักยภาพสูงอยู่แล้วในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นแพทย์เฉพาะทางที่มีความรู้ความชำนาญ อุปกรณ์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ บุคลากร และทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ใกล้ถนนสายหลักที่เชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ และภาคตะวันออกของไทย รวมถึงสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เราพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางการแพทย์เฉพาะทางที่ครบทุกสาขา ไม่เฉพาะแต่การดูแลรักษาเด็กซึ่งเป็นจุดแข็งและเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว ประกอบกับการสนับสนุนจากโรงพยาบาลในกลุ่มสมิติเวช การพัฒนาขีดความสามารถในการดูแลผู้ป่วยในครั้งนี้ จะทำให้เราสามารถให้บริการแก่ผู้ป่วยที่เป็นโรคเฉพาะทางที่ซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้น”
ในการเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลผู้ป่วย สมิติเวชได้ลงทุนประมาณ 200 ล้านบาทในการจัดซื้ออุปกรณ์และเทคโนโลยีทางการแพทย์มากมาย อาทิ เครื่อง CT Scan และ MRI รุ่นใหม่เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น กล้องจุลทรรศน์ (Microscopy) สำหรับผ่าตัดทางระบบประสาทและสมองรวมไปถึงเส้นเลือดขนาดเล็ก (Microscopic Surgery) การติดตั้งระบบ PACs (Picture Archiving and Communication System) เพื่อเชื่อมโยงและส่งต่อข้อมูลการเอ็กซ์เรย์ระหว่างโรงพยาบาล ในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น การถ่ายภาพ X-Ray ทั่วไป, การทำ Ultrasound, Mammogram, Endoscope, CT Scan และ MRI ในระบบดิจิตอลที่สมบูรณ์แบบ เพื่อช่วยในเรื่องของการส่งต่อผู้ป่วย (Referral) และการร่วมรักษาแบบ Telemedicine นอกจากนี้ ยังได้เปิดหน่วยรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจด้วยการใส่สายสวน (Cath Lab) ซึ่งพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากการวินิจฉัยและรักษาโรคแล้ว สมิติเวชศรีนครินทร์ ยังให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูผู้ป่วย โดยลงทุนถึง 40 ล้านบาทเพื่อเปิดศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดของไทย เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยที่พ้นภาวะวิกฤตสามารถฟื้นฟูกล้ามเนื้อและอวัยวะต่างๆ ให้สามารถกลับมาทำงานได้ดีหรือใกล้เคียงความสามารถเดิมให้ได้ดีที่สุด
ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน มีห้องบำบัดที่จะช่วยให้นักเวชศาสตร์ฟื้นฟูให้การดูแลผู้ป่วยได้แบบตัวต่อตัวเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการฟื้นฟูสมรรถนะ โดยได้เพิ่มบริการใหม่ๆ เช่น สระธาราบำบัด (Hydrotherapy) สระน้ำปรับอุณหภูมิ ลู่ฝึกเดินที่แบ่งเป็นสัดส่วนชาย-หญิง ห้องฝึกสมาธิสำหรับเด็ก ด้วยวิธี Snoezelen Technique และหุ่นยนต์ช่วยฝึกเดิน (Robot-Loko Motive) สำหรับผู้ป่วยอัมพาต ทั้งยังได้ลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยตรวจวิเคราะห์สภาพของกล้ามเนื้อและระบบประสาทเพื่อช่วยให้นักเวชศาสตร์ฟื้นฟูสามารถจัดโปรแกรมกายภาพบำบัดให้เหมาะสมแก่ผู้ป่วยแต่ละรายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย
และเพื่อรองรับผู้ป่วยจากต่างประเทศที่เข้ามาใช้บริการของโรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ที่เพิ่มจำนวนขึ้น โรงพยาบาลฯ ได้เปิดหอผู้ป่วยใหม่ที่ชั้น 14 (International Ward) ซึ่งจะให้ความสะดวกสูงสุดแก่ผู้ป่วยที่เป็นชาวต่างประเทศ ด้วยการตกแต่งสไตล์เอเชีย สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลายให้กับผู้ป่วยเพื่อประสิทธิผลในการพักฟื้นอีกด้วย
“การเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลผู้ป่วยในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยผลักดันให้สมิติเวชศรีนครินทร์มีจุดยืนที่ชัดเจนในฐานะโรงพยาบาลแบบตติยภูมิหรือโรงพยาบาลที่สามารถรักษาโรคเฉพาะทางได้ทุกแขนงโดยใช้ความรู้ความชำนาญและเทคโนโลยีขั้นสูงแล้ว สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือ การที่เราสามารถช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุข และมีความหวังในชีวิตมากขึ้น” นายแพทย์ดุลกล่าว
ข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาลสมิติเวช
โรงพยาบาลสมิติเวชก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2522 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน ชั้นนำในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ให้บริการด้วยมาตรฐานด้านการแพทย์ซึ่งได้รับการรับรองคุณภาพทั้งในประเทศไทยและมาตรฐานสากลจาก Joint Commission International หรือ JCI ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือ 3 แห่งได้แก่ สุขุมวิท ศรีนครินทร์ และศรีราชา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ปัญจมา จัดเจน โทร 0-2378-9200 E-mail: [email protected]
จันทนา อ๋องพิบูลย์ โทร 0-2378-9145 E-mail : [email protected]
สุรัญชนา สิทธิพูล โทร 0-2378-9155 E-mail: [email protected]