จากการที่ ก.ล.ต. ได้รับเรื่องจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า ในปลายเดือนมีนาคม 2549 บริษัท เบเคอร์ฯ ได้รับแต่งตั้งจากผู้ซื้อให้เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายในการซื้อหุ้นเพื่อครอบงำกิจการของ GRAND และนายรัชชานนท์ ในฐานะหัวหน้าทีมที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัท เบเคอร์ฯ ที่รับผิดชอบและเข้าร่วมในการเจรจาซื้อหุ้นดังกล่าว ได้ล่วงรู้ข้อเท็จจริงที่ยังไม่เปิดเผยต่อประชาชน อันมีผลกระทบอย่างมีสาระสำคัญต่อราคาหุ้น GRAND ตั้งแต่เริ่มเจรจา จนกระทั่งได้ข้อตกลงยุติ อันนำไปสู่การทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ GRAND ในราคาสูงกว่าราคาตลาดในขณะนั้น ซึ่งได้มีการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดดังกล่าวต่อประชาชนในวันที่ 30 มิถุนายน 2549
ในช่วงเวลาหลังจากที่นายรัชชานนท์ได้ล่วงรู้ข้อมูลดังกล่าว จนถึงก่อนวันที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อประชาชน ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายรัชชานนท์ได้ให้นางสาวเสาวภาคย์ เลขานุการ ซื้อหุ้น GRAND เพื่อประโยชน์ของตน ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของญาตินางสาวเสาวภาคย์ รวมจำนวน 7,561,200 หุ้น ในราคาหุ้นละ 2.96 - 4.70 บาท และได้ทยอยขายหุ้น GRAND ออกไปภายหลังโดยได้กำไร
การกระทำของนายรัชชานนท์เข้าข่ายเป็นการเอาเปรียบผู้ลงทุน และฝ่าฝืนมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน โดยมีนางสาวเสาวภาคย์ เป็นผู้สนับสนุน ซึ่งนายรัชชานนท์และนางสาวเสาวภาคย์ได้ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบ เป็นจำนวนเงิน 6,686,549.80 บาท และ 333,333.33 บาท ตามลำดับ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ฝ่ายงานเลขาธิการ : 0-2695-9502-5 e-mail: [email protected]