นางสาวดวงใจ คูห์ศรีวินิจ นายกสมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทย เปิดเผยว่า ถึงแม้ตลาดส่งออกหลักสินค้าของเล่นไทยในปัจจุบัน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น จะมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจและยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ประกอบกับมาตรการตรวจสอบสินค้าที่เข้มงวดมากขึ้นของประเทศผู้นำเข้า รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของเล่นของผู้บริโภค จะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการส่งออกของเล่นไทย แต่เชื่อว่าภาวะการส่งออกสินค้าของเล่นในครึ่งปีหลังจะดีขึ้น โดยขณะนี้ได้มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นในบางประเทศแล้ว เช่น เนเธอร์แลนด์ จีน และ ฮ่องกง ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการเรียกคืนสินค้าของเล่นจากจีนที่มีปัญหาด้านความปลอดภัย ทำให้ผู้นำเข้าในหลายประเทศหันมาชื้อจากไทยแทน
ทั้งนี้ คาดว่าการส่งออกสินค้าของเล่นในปีนี้จะมีมูลค่าทั้งสิ้น 234.67 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 5 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 0.1 % ของมูลค่าการส่งออกรวมทั้งประเทศ ส่วนในอนาคตการแข่งขันในตลาดของเล่นจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการพัฒนาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อให้มีความสร้างสรรค์และการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการผลิต จะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมของเล่นไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยจุดขายหลักสินค้าของเล่นไทยคือ รูปแบบสินค้าและดีไชน์ (Design) คุณภาพสินค้า (Quality) และการรักษาสัญญาการชื้อขาย (Commitment)
“สิ่งสำคัญคือจะต้องแสดงให้ตลาดโลกรับรู้ถึงความปลอดภัยของสินค้าของเล่นจากประเทศไทย และมีการสื่อสารออกไปให้โลกรับรู้ว่าของเล่นไทยมีจุดแข็งตรงไหน น่าเชื่อถือและมีคุณภาพโดดเด่นอย่างไร เพื่อผู้นำเข้าจะได้เกิดความมั่นใจนำเข้าสินค้าเรามากขึ้น ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งผลิตสินค้าของเล่นที่ดีที่สุดและครบวงจรมากที่สุดในอาเซียน”
สำหรับการส่งออกสินค้าของเล่นไทยนั้น นางสาวดวงใจกล่าวต่อว่า ตลาดใหม่ที่น่าสนใจในขณะนี้ ได้แก่ ประเทศแถบยุโรป เช่น อิตาลี โปรตุเกส ซึ่งมีการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่ตลาดที่มีศักยภาพสูงและน่าจับตามอง ได้แก่ จีนและอินเดีย เนื่องจากมีฐานประชากรจำนวนมาก แม้ประเทศเหล่านี้จะเป็นผู้ผลิต แต่ยังมีช่องทางที่จะเข้าไปเจาะตลาดได้อีกมาก โดยปัจจุบันได้มีสมาชิกบางรายของสมาคมฯ เข้าไปทำตลาดในจีนและอินเดียแล้ว และได้รับการตอบรับที่ดี นอกจากนี้สมาชิกสมาคมฯหลายรายยังได้มีการพัฒนาสินค้าของเล่น การดีไซน์และสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นและจำหน่ายไปในตลาดทั่วโลกกว่า 60 ประเทศ รวมทั้งมีบางบริษัทไปเปิดบริษัทจำหน่ายสินค้าของตัวเองในประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลักของไทยด้วย
“โดยที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการในการแข่งขันในตลาดโลก จึงได้มีนโยบายที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเล่นไทยให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้นและเป็นการยกระดับความรู้ให้แก่ผู้บริโภค โดยการจัดกิจกรรมการประกวด Good Toy Awards ขึ้น และเชิญชวนผู้ประกอบการส่งผลิตภัณฑ์ของเล่นที่อยู่ในสายการผลิต และทำการจำหน่ายแล้วทั้งในและต่างประเทศ เข้าร่วมการประกวด และได้รับความร่วมมือด้วยดีจากสมาชิก โดยผลงานที่ได้รับรางวัลสามารถที่จะนำไปต่อยอดทางการตลาดต่อไปได้ กิจกรรมนี้นอกจากจะเป็นแนวทางในการเลือกซื้อของเล่นให้กับผู้บริโภคแล้ว ยังจะเป็นการพัฒนาผู้ประกอบการและส่งผลดีต่อตลาดของเล่นไทยทั้งระบบด้วย”
นอกจากนี้สมาคมฯ ได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ จัดกิจกรรม BIG Toys Design ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และผลสำเร็จของการจัดกิจกรรม BIG Toys Design ที่ผ่านมา ได้คัดสรรนักออกแบบรุ่นใหม่เข้าสู่อุตสาหกรรมของเล่นไทยแล้วไม่น้อยกว่า 100 ราย โดยนำผลงานต้นแบบไปจัดแสดงนิทรรศการในงานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (BIG & BIH) ในเดือนตุลาคม ของทุกปี
สำหรับกิจกรรม BIG Toys Design ในงาน BIG & BIH เดือนตุลาคมนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 โดยจะนำผลงานของการแสดงไอเดียใหม่ๆ ที่นักออกแบบไทยนำมาจัดแสดง เพื่อให้ผู้ซื้อต่างชาติได้เห็นศักยภาพการออกแบบและการผลิตสินค้าของเล่นไทยที่ได้รับการยอมรับจากตลาดโลก ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้มั่นใจว่าจะได้นักออกแบบรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพเข้าสู่วงการของเล่นไทยไม่น้อยกว่า 10 ราย รวมทั้งจะช่วยยกระดับพัฒนาอุตสาหกรรมของเล่นไทยได้เป็นอย่างดี
งาน BIG & BIH เดือนตุลาคม 2552 จัดระหว่างวันที่ 13-18 ตุลาคม 2552 เป็นวันเจรจาธุรกิจ 13-16 ตุลาคม เวลา 10.00-18.00 น. และวันจำหน่ายปลีก 17-18 ตุลาคม เวลา 10.00-21.00 น. ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี บนพื้นที่ 45,000 ตารางเมตร จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 28 ภายใต้แนวคิด “Unique Lifestyle” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกสินค้าของขวัญ ของตกแต่งบ้านและของใช้ในบ้านในภูมิภาคเอเชีย คาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานประมาณ 670 บริษัท 1,700 คูหา จำนวนผู้เข้าชมงานในวันเจรจาธุรกิจ 15,000 คน และวันจำหน่ายปลีกประมาณ 200,000 คน
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณเมยานี เชิญพิพัฒธนสกุล
บริษัท มาร์เก็ตติ้ง อินทิเกรชั่น จำกัด
โทร 0 2574 6414 โทรสาร 0 2574 6415
อีเมล์ [email protected], [email protected]