ประเทศเอเชียเดินหน้าบรรจุแผนสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เชื่อมั่นเป็นแหล่งพลังงานในอนาคต พัฒนาเศรษฐกิจ ตอบสนองการใช้ไฟฟ้าของประชาชนที่เพิ่มขึ้น

จันทร์ ๓๑ สิงหาคม ๒๐๐๙ ๐๘:๓๐
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า หลายประเทศในอาเซียนเริ่มบรรจุแผนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไว้ในแผนยุทธศาสตร์ด้านพลังงาน ซึ่งในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia Nuclear Weapon-Free Zone Treaty : SEANWFZ) ณ กรุงจากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบด้วย 10 ประเทศในเอเชียฯ และ 5 ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ครอบครอง ได้แก่ สหรัฐฯ อังกฤษ รัสเซีย ฝรั่งเศส และจีน มีข้อตกลงร่วมกันสำหรับประเทศที่มีแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ว่าจะไม่มีการพัฒนาที่นำไปสู่การทำอาวุธนิวเคลียร์จากการเสริมสมรรถนะ (Enrichment) ของยูเรเนียม และการแปรสภาพ (Reprocessing) ของเชื้อเพลิงที่ใช้แล้ว นอกจากนั้นสนับสนุนสำนักเลขาธิการอาเซียน (ASEAN Secretariat : ASEC) ในการติดตามความคืบหน้าพัฒนาการด้านพลังงานนิวเคลียร์ของกลุ่มประเทศอาเซียน และเป็นหน่วยงานให้ความรู้ และแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์ที่ถูกต้อง

ทั้งนี้ ความคืบหน้าของการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ในเอเชียหลายประเทศได้มีการวางแผนแล้ว และบางประเทศแม้จะมีการเลื่อนโครงการออกไปแต่ก็ยังคงบรรจุไว้ในแผนพลังงานของประเทศ ประเทศมาเลเซีย มีแผนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ร่างไว้ในแผนและนโยบายด้านพลังงานของประเทศ และอาจพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ภายใน 10-15 ปีข้างหน้า

ประเทศเวียดนาม บรรจุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไว้ในยุทธศาสตร์พลังงานของประเทศ และกำหนดเดินเครื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกขนาด 2,000 เมกะวัตต์ ในปี 2020 ขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย ตามแผนด้านพลังงานยังคงให้มีการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แม้ว่าจะมีการประกาศเลื่อนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จากเดิมในปี 2017 เลื่อนเป็นปี 2025 ด้วยเหตุผลด้านการเมืองและวิกฤตเศรษฐกิจ

สำหรับสหภาพพม่า ในคราวการประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนที่ผ่านมา พม่าแจ้งในที่ประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนว่าพบแหล่งก๊าซธรรมชาติจำนวนมากบริเวณเมาะตะมะ และเบงกอล พร้อมกับมีแนวทางส่งก๊าซฯ จำหน่ายให้กับประเทศจีน ซึ่งจะเป็นยุทธศาสตร์หลักในการพัฒนาประเทศโดยกำหนดให้ใช้ฐานทรัพยากรจากก๊าซธรรมชาติเป็นตัวเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรมและระบบโลจิสติกส์ของประเทศในทศวรรษต่อไป ในการนี้โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าสหภาพพม่าน่าจะยังไม่มีการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในขณะนี้

นายทวารัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศอื่นที่ยังมีแผนพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพิ่มเติม ได้แก่ จีน อินเดีย และเกาหลีใต้ โดยหลักการที่ประเทศส่วนใหญ่เห็นร่วมกันถึงการจัดหาและกระจายแหล่งเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ความมั่นคงด้านพลังงานเป็นเหตุผลสำคัญ ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศ นอกจากนี้ความคืบหน้าของการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของไทยอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม ในด้านผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย การเลือกใช้เทคโนโลยี การพัฒนาบุคลากรและทำความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผน กระทรวงพลังงานจะนำเสนอผลการศึกษาต่อรัฐบาลอีกครั้งประมาณปลายปี พ.ศ. 2553 หรือต้นปี พ.ศ. 2554”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO