นายไชยเจริญ อติแพทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที โซลูชั่นส์ จำกัด (PTT ICT) ในเครือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) เปิดเผยว่า ประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้ จะเปิดตัวโครงการ "Energy Complex" ซึ่งเป็นตึกอัจฉริยะประหยัดพลังงานของกลุ่ม ปตท. อย่างเป็นทางการ ซึ่งมีการบริหารจัดการระบบทั้งหมดโดย บริษัท พีทีที โซลูชั่นส์ จำกัด
โครงการ Energy Complex ถูกออกแบบภายใต้แนวคิดของการผสมผสานนวัตกรรมของอาคารอนุรักษ์พลังงาน (Green Building) และอาคารอัจฉริยะ (Intelligent Building) ตลอดจนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT: Information & Communication Technology) อันทันสมัย มุ่งเน้นประโยชน์ใช้สอยผสานกับการอนุรักษ์พลังงานและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้พลังงานไฟฟ้าและน้ำเย็นที่ใช้ในระบบควบคุมอากาศจากโรงไฟฟ้าพลังงานร่วม (Combined Heat and Power: CHP) ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง เป็น Primary Source
"เราประกาศเป็นนโยบาย Green ICT ของกลุ่ม ปตท. ซึ่งโดยหลักการแล้ว มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะใช้อุปกรณ์ ICT ตั้งแต่การออกแบบ การติดตั้ง จนถึงการใช้งาน เพื่อให้ใช้ทรัพยากรและพลังงานน้อยที่สุด ทั้งหมดนี้เพราะเราให้ความสำคัญกับผู้ใช้งาน แคร์ทีมงาน แคร์สังคม" นายไชยเจริญ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤศจิกายนนี้ "Energy Complex" จะสร้างเสร็จและเริ่มมีหน่วยงานต่างๆ ในเครือ ปตท. เข้ามาใช้บริการ เช่น บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP), บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ที่สนใจ เช่น กระทรวงพลังงาน ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้บริการเต็มพื้นที่ประมาณกลางปี 2553 ขณะที่ตึก ปตท. หลังเก่า จะมีการออกแบบและปรับปรุงใหม่ภายใต้แนวคิดเดียวกัน
นายไชยเจริญ กล่าวต่อว่า ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา PTT ICT ได้ลงนามสัญญาเช่าใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการบริการ ICT ในศูนย์ "Energy Complex" กับ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) (MFEC) มูลค่า 240 ล้านบาท เพื่อวางระบบสายสัญญาณไฟเบอร์ ออฟติค และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการบริการ ICT ในโครงการ "PTT ICT-EnCo"
โดยระบบดังกล่าว จะเชื่อมโยงการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคลากรภายในและนอกองค์กรอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย เช่น IP Phone, VPN, CUPC ฯลฯ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของโลก และเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนรุ่นใหม่ที่จะนำระบบ ICT ใหม่ๆ มาพัฒนารูปแบบการใช้งานต่อไปในอนาคต
"การพัฒนาเทคโนโลยีฯ เป็นเรื่องที่เกิดจะขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผมเชื่อว่าแนวโน้มการเติบโตของ ICT จะมีอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน ICT ของประเทศจะถูกลงเรื่อยๆ และทุกฝ่ายต้องร่วมมือร่วมใจกันพัฒนา เช่น การสร้างบุคลากรให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละองค์กร และเปิดโอกาสให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งรวมถึงคนด้อยโอกาสในสังคมด้วย" นายไชยเจริญ กล่าว
นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) (MFEC) กล่าวว่ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ PTT ICT ตัดสินใจเลือกใช้บริการจาก MFEC เนื่องจากทั้งสองบริษัทมีแนวคิดการทำงานเหมือนกัน และในด้านของการทำงาน MFEC พร้อมและยินดีอย่างมากในการมีส่วนร่วมพัฒนาระบบ ICT ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด สอดคล้องกับความต้องการทั้งในปัจจุบันและรองรับอนาคตได้อย่างดีที่สุด
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ MFEC ยังมีการขยายงานไปสู่สายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมากขึ้น เพื่อให้เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจ และความเปลี่ยนแปลงด้านความต้องการลูกค้า อาทิ การบริหารจัดการและบริการ Network Operation Center แบบครบวงจร (Managed Service) เพิ่มเติมจากการพัฒนา Content และ Application สำหรับอุปกรณ์ไร้สาย นอกจากนี้ MFEC เองยังมีการนำเอาเทคโนโลยีด้าน IP Telephony ผนวกกับเทคโนโลยี Text to Speech ซึ่งเป็นระบบสั่งงานอุปกรณ์ด้วยเสียงพูดภาษาไทยแบบธรรมชาติ (Natural Language) นอกเหนือจากการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายไร้สาย ควบคู่กับการทำตลาด IP Telephony เพื่อช่วยให้ลูกค้าโยกย้ายระบบคอมพิวเตอร์ และเปิดสำนักงานใหม่ๆ ได้ทั่วประเทศด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของบริษัท ครอบคลุมในกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจธนาคาร และสถาบันการเงิน รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิต จึงทำให้เชื่อว่า MFEC จะเป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านไอที ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
IR PLUS : คุณจุฬารัตน์ เจริญภักดี(ฟ้า)
Tel. 02-554-9395 E-mail : [email protected]