สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุและโทรทัศน์ฯ ยื่นหนังสือ รมว.สาทิตย์ ย้ำจุดยืนขอให้ทบทวน ร่าง พรบ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ

พฤหัส ๐๓ กันยายน ๒๐๐๙ ๑๓:๕๙
สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ นำโดย นางจำนรรค์ ศิริตัน หนุนภักดี นายกสมาพันธ์ฯ พร้อมด้วยผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ ผู้บริหาร และกรรมการที่ปรึกษาสมาพันธ์ฯ ได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือ “ขอเสนอความคิดเห็นเพิ่มเติม ร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบ กิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ....” แก่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาร่าง พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ เพื่อให้มีการพิจารณาทบทวนและแก้ไข ร่างพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯในบางมาตรา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับการประกอบวิชาชีพ และการดำเนินกิจการวิทยุและโทรทัศน์ในอนาคต ก่อนนำเข้าพิจารณา ในวาระที่ 2 ของการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป ประมาณเดือนตุลาคม 2552 นี้

สมาพันธ์ฯในฐานะองค์กรวิชาชีพ ซึ่งประกอบด้วย ผู้ประกอบกิจการ ผู้ผลิตรายการ ดารา นักร้อง ผู้จัดรายการ ผู้ดำเนินรายการ และบุคคลที่ทำหน้าที่ต่างๆ ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ได้ดำเนินการ ยื่นหนังสือเสนอความคิดเห็นต่อร่างพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ เป็นครั้งที่ 2 แล้ว หลังจากได้เคยเข้ายื่นหนังสือเสนอความคิดเห็นเพิ่มเติมต่อร่างพรบ.ฉบับนี้ ต่อประธานคณะกรรมการธิการวิสามัญพิจารณาร่างฯ แล้ว เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2552 และคณะกรรมาธิการฯ ก็ได้มีการประชุมพิจารณาร่างพรบ. ดังกล่าวทุกวันพฤหัสบดี แต่เนื้อหาล่าสุดของร่างพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯพิจารณาอยู่ พบว่ายังมิได้มีการพิจารณาข้อคิดเห็นและข้อเรียกร้องของสมาพันธ์ฯเลย สมาพันธ์ฯจึงได้มารวมตัวกันเพื่อแสดงจุดยืนอีกครั้ง

ทั้งนี้ สาระสำคัญที่สมาพันธ์ฯ เสนอความคิดเห็น คือ จำนวนและองค์ประกอบของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตามมาตรา 6 ขอให้มีจำนวน 15 คน โดยให้มีการคัดเลือกผู้ที่มีวิชาชีพหรือประสบการณ์ด้านกิจการวิทยุกระจายเสียงจากเดิม 1 คนเป็น 2 คน และกิจการวิทยุโทรทัศน์จากเดิม 1 คนเป็น 2 คนเช่นกัน ทั้งนี้ ให้กลุ่มวิชาชีพคัดเลือกกันเอง ไม่นำกลุ่มผู้มีความรู้ (สถาบันการศึกษา) มารวมคัดเลือกกับกลุ่มวิชาชีพ เพื่อให้ได้บุคคลที่มีผลงานและประสบการณ์ด้านวิชาชีพแต่ละสาขาใน สัดส่วนที่ชัดเจนมาเป็นคณะกรรมการฯ เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลการประกอบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ต่อไป

นอกจากนั้น สมาพันธ์ฯ ยังได้ตั้งข้อสังเกตในวิธีการประมูลคลื่นความถี่ ตามมาตรา 34 ว่าควรพิจารณาจากคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตใช้คลื่น มากกว่าการพิจารณาจำนวนเงินที่ประมูลเพียงอย่างเดียว เพื่อให้ได้ผู้ที่มีคุณสมบัติในการวางแผนบริหารจัดการที่ดี มีความเป็นมืออาชีพ ระบบตรวจสอบบัญชีได้มาตรฐาน อีกทั้ง ในประเด็นคณะกรรมการบริหารกองทุนตามมาตรา 48 และคณะกรรมการตรวจสอบการบริหารเงินของกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการฯ ตามมาตรา 46 นั้น เสนอให้มีตัวแทนผู้ประกอบการวิทยุ-โทรทัศน์ ร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย เพื่อประโยชน์สูงสุดในการพัฒนากิจการด้านนี้ต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ เม.ย. OR จับมือภาครัฐและผู้ประกอบการชุมชน เพิ่มประสิทธิภาพการตลาดผลิตภัณฑ์ OTOP ผ่านโครงการ 'ไทยเด็ด' มุ่งเสริมแกร่งเศรษฐกิจชุมชนไทยอย่างยั่งยืน
๐๔ เม.ย. เทลสกอร์ จับมือพันธมิตร ขับเคลื่อนโครงการ 'Help You, Help Me' สู่ปีที่ 6 ผสานพลังคอนเทนต์ครีเอเตอร์ สนับสนุนโครงการเพื่อสังคม
๐๔ เม.ย. เซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว สนับสนุนภารกิจกู้ภัย มอบอาหารและเครื่องดื่มให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์
๐๔ เม.ย. ร้อนๆแบบนี้ มาหมุนให้ฉ่ำ!!สนุกสุดมันส์ไปกับเครื่องเล่น Water Roller ลูกบอลน้ำมหาสนุก
๐๔ เม.ย. ซัมเมอร์นี้ชวนเช็กอินสมุย แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของชาวเวลเนส ที่ BDMS Wellness Clinic สาขา Celes Samui
๐๔ เม.ย. โซเชียลจับตา ตึกถล่ม-อาฟเตอร์ช็อก ประเด็นร้อนหลังแผ่นดินไหว
๐๔ เม.ย. กรมทรัพยากรน้ำ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่เหียะน้อย พร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงใหม่
๐๔ เม.ย. GoWabi แพลตฟอร์มจองบริการบิวตี้ครบวงจรอันดับ 1 ในไทยเปิดตัวบริการ GoWabi POS พร้อมประกาศรางวัล GoWabi Top Rated
๐๔ เม.ย. ทีทีบี เชิญชวนเที่ยว พิพิธภัณฑ์ครุฑ สืบสานพลังศรัทธา สรงน้ำ สมเด็จมหาราชทรงครุฑ เสริมพลังบุญรับปีใหม่ไทย
๐๔ เม.ย. บัตรเครดิต ทีทีบี มอบโปรฯ ฟรีอัปเกรด! HUT บุฟเฟต์ อิ่มไม่อั้น จ่ายเพียง 399 บาท