นพ. พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการคลังที่มอบหมายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ รวมทั้งธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เพิ่มเป้าหมายสินเชื่อใหม่ในปี 2552 เป็น 37,200 ล้านบาท EXIM BANK ได้ตอบสนองนโยบายโดยการจัดงาน “เอ็กซิมเครดิตฟาสต์แทร็กแฟร์ (EXIM Credit Fast Track Fair)” เพื่อออกบูธให้คำปรึกษาแนะนำแก่ทุกประเภทธุรกิจอย่างครบวงจรและจัดแพ็คเกจบริการทางการเงินที่เหมาะสมให้แก่ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยแต่ละราย ณ สยามพารากอน เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา
ในงานนี้ EXIM BANK ประสบความสำเร็จในการขยายบริการไปยังผู้ส่งออกและนักลงทุนไทย ซึ่งเข้ามาติดต่อขอรับบริการต่างๆ ของ EXIM BANK รวมถึงบริการใหม่ “สินเชื่อเพื่อซัพพลายเออร์ส (EXIM for Your Suppliers)” เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้แก่ผู้ผลิตเพื่อผู้ส่งออก (ซัพพลายเออร์) และ “บริการสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ซื้อในต่างประเทศ (Buyer’s Credit)” เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้นำเข้าในต่างประเทศและส่งเสริมการส่งออกสินค้าและบริการจากไทย รวมทั้งมีธุรกิจ SMEs ติดต่อขอรับบริการตรวจสุขภาพธุรกิจเพื่อเตรียมขอสินเชื่อหมุนเวียน “เอ็กซิมเครดิตเอ็กซ์เพรส (EXIM Credit Express)” วงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทภายใต้โครงการ “เอ็กซิมเครดิตฟาสต์แทร็ก”
ทั้งนี้ โครงการเอ็กซิมเครดิตฟาสต์แทร็กประกอบด้วย 1) สินเชื่อหมุนเวียน “เอ็กซิมเครดิตเอ็กซ์เพรส (EXIM Credit Express)” วงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท EXIM BANK จะแจ้งผลการอนุมัติสินเชื่อภายใน 5 วันทำการนับจากวันที่ได้รับเอกสารครบ 2) สินเชื่อหมุนเวียนวงเงินมากกว่า 10 ล้านบาท EXIM BANK จะแจ้งผลการรับพิจารณาสินเชื่อภายใน 7 วันทำการนับจากวันที่ได้รับเอกสารครบ และแจ้งผลการอนุมัติสินเชื่อภายใน 15-30 วันทำการนับจากวันแจ้งรับพิจารณา ขึ้นอยู่กับวงเงินสินเชื่อ และ 3) สินเชื่อระยะกลาง-ยาว/ Project Finance สำหรับผู้ส่งออกและนักลงทุน EXIM BANK จะแจ้งผลการรับพิจารณาสินเชื่อภายใน 15 วันทำการนับจากวันที่ได้รับเอกสารครบและแจ้งผลการอนุมัติสินเชื่อภายใน 45 วันทำการนับจากวันแจ้งรับพิจารณา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1140-8