หลังการตัดสินคดี ทางไมโครซอฟท์ได้ยื่นอุทธรณ์โดยอ้างว่าทางบริษัทไม่เพียงแต่ต้องระงับการขายโปรแกรม Word เท่านั้น แต่ยังต้องระงับการขายซอฟท์แวร์ทั้งหมดที่ใช้ร่วมกับโปรแกรม Office จนกว่าจะสามารถออกแบบโปรแกรมใหม่ที่มีการถอดฟังก์ชั่น XML ออกไปได้ ซึ่งการทำเช่นนั้นจะส่งผลให้ตัวแทนจำหน่าย อาทิ บริษัทค้าปลีก เบสท์ บาย (Best Buy) และผู้ผลิต OEM อย่างเอชพี (HP) และ เดลล์ (Dell) ได้รับผลกระทบอย่างหนักในด้านการขาย ในขณะเดียวกันทั้งเอชพี และ เดลล์ ต่างก็อ้างว่าทางบริษัทต้องรับภาระหนักหากศาลมีคำสั่งบังคับถาวรดังกล่าว พร้อมกันนั้นได้ขอขึ้นให้การต่อศาลอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้รับคำร้องดังกล่าวและกำหนดพิจารณาคดีอีกครั้งในวันที่ 23 กันยายนนี้ ที่กรุงวอชิงตันดีซี
ลูดอน โอเวน ประธานบริษัท i4i กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นว่าศาลแขวงสหรัฐตัดสินคดีได้อย่างถูกต้องยุติธรรมแล้ว และเรามั่นใจว่า i4i จะชนะคดีในชั้นศาลอุทธรณ์ด้วย ทั้งนี้ คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างสำหรับบริษัทใดก็ตามที่ถูกบริษัทคู่แข่งจงใจละเมิดสิทธิบัตร โดยเฉพาะจากบริษัทคู่แข่งที่ใหญ่และมีอำนาจมากกว่าอย่างไมโครซอฟท์”
โอเวนกล่าวต่อไปว่า “ถึงบริษัทเราจะไม่ได้มีเงินมากมายอย่างไมโครซอฟท์ แต่เราก็มีสิทธิได้รับความคุ้มครองภายใต้ระบบยุติธรรมของสหรัฐ ไมโครซอฟท์ไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย พวกเขาไม่สามารถยึดเอาสิทธิบัตรของเราไปใช้โดยพละการได้”
i4i เป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในโทรอนโต แคนาดา โดยมี i4i LP และ i4i Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกัน เป็นเจ้าของสิทธิบัตรหมายเลข 5,787,449 ซึ่งออกโดยกรมสิทธิบัตรแห่งสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2541
ท่านที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการเอกสารเกี่ยวกับการดำเนินคดีสามารถดูได้ที่ www.i4ilp.com หรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่มีการบันทึกข้อมูลดังกล่าว
แหล่งข่าว: McLean Watson; i4i
ติดต่อ: ลูดอน โอเวน
โทร: (416) 307-3271
อีเมล: [email protected]
เมโลนี เจมีสัน
โทร: (416) 518-6355
อีเมล: [email protected]
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --