ผู้ประกอบการค้าข้าวคึก ดันปริมาณซื้อขาย AFET พุ่ง

อังคาร ๑๕ กันยายน ๒๐๐๙ ๑๗:๒๔
นายนิทัศน์ ภัทรโยธิน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET เปิดเผยว่า "วันนี้ (15 ก.ย.) การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าข้าวใน AFET คึกคักมาก โดยมีปริมาณซื้อขาย ข้าวขาว 5% (BWR5)จำนวน 1,594 สัญญา และข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 (BHMR) จำนวน 797 สัญญา ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายรวม เท่ากับ 3,174 สัญญา คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 1,000 ล้านบาท นับเป็นสถิติการซื้อขายที่สูงมากอีกหนึ่งวันในรอบเดือนกันยายนนี้ ในขณะที่เมื่อวันก่อน (14 ก.ย.) มีปริมาณการซื้อขายรวม เท่ากับ 2,415 สัญญา และรองจากเมื่อวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม มีปริมาณซื้อขายสูงถึง 4,735 สัญญา/วัน โดยส่วนใหญ่เป็นการซื้อขายข้าวเป็นหลัก ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์นับแต่ตลาดเปิดทำการซื้อขาย ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายใน AFET ในช่วงนี้อยู่ในระดับเฉลี่ย 1,600 สัญญา/วัน การซื้อขายในวันนี้ ประกอบด้วย สัญญาข้าวขาว 5% ที่มีการซื้อขายมากสุด คือ สัญญาข้าวส่งมอบเดือนตุลาคม จำนวน 1,433 สัญญา ส่วนสัญญาข้าวหอมมะลิส่งมอบเดือนตุลาคม จำนวน 503 สัญญาตามลำดับ ซึ่งปริมาณการซื้อขายข้าวที่สูงขึ้นเป็นผลโดยตรงจากนโยบายการจำหน่ายข้าวของภาครัฐ ประกอบกับนักลงทุนเริ่มมองหาโอกาสในการลงทุน ส่งผลให้การซื้อขายล่วงหน้าข้าวใน AFET กลับมามีสีสันอีกครั้ง

นายนิทัศน์ กล่าวว่า " เหตุผลสำคัญที่ทำให้ปริมาณการซื้อขายข้าวใน AFET เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมประมูลข้าวในสต็อกรัฐบาลผ่านกลไกตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าใน AFET ที่กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดประมูลตั้งแต่ในเดือนสิงหาคม (วันที่ 6 ส.ค.และ 26 ส.ค.) และล่าสุดในเดือนกันยายน (7 กันยายน) ได้เข้ามาซื้อขายเป็นจำนวนมาก ซึ่งในการประมูลแต่ละครั้งมีผู้ประกอบการค้าข้าวให้ความสนใจเข้าร่วมประมูลกว่า 30 -50 ราย มีทั้งโรงสี ผู้ค้าข้าว และผู้ส่งออก หลายระดับซึ่งล่าสุดข้าวหอมมะลิได้มีการประมูลแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย คงเหลือเพียงข้าวขาวบางส่วนเท่านั้น และคาดว่าจะดำเนินการประมูลให้เสร็จในช่วงต้นเดือนหน้านี้

การประมูลในรูปแบบนี้ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายพอใจกับวิธีการที่รัฐบาลเลือกจำหน่ายสต็อกข้าว โดยวิธีประมูลแบบเสนอส่วนต่างราคา (การประมูลแบบ Basis) เนื่องจากวิธีการประมูลดังกล่าว เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการค้าข้าวทุกระดับ สามารถเข้าซื้อสินค้าในสต็อกของรัฐบาลได้ และสามารถเลือกล็อกราคาล่วงหน้าที่ตนพอใจและกำหนดช่วงเวลาในการรับมอบสินค้าได้ ซึ่งทำให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนในการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งผู้ประกอบการมีความต้องการซื้อข้าวจากรัฐบาล และมีการแข่งขันกันมากในการเสนอส่วนลดและส่วนเพิ่มถึงขนาดที่มีการเสนอส่วนต่างราคาที่เท่ากันหลายล็อตข้าวที่นำมาประมูล อีกทั้งในการประมูลที่ผ่านมาพบว่าช่วงส่วนต่างราคาที่เสนอแคบลงมาเป็นอย่างมาก ดังนั้นปริมาณซื้อขายใน AFET ในช่วงนี้ นอกจากมีผู้ประกอบการค้าข้าว ยังมีนักลงทุนจำนวนมาก ให้ความสนใจเข้ามาซื้อขายกันเป็นจำนวนมาก อันถือได้ว่าเป็นจังหวะและโอกาสการลงทุนสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุน ”นายนิทัศน์ กล่าวในที่สุด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

คุณอิสราพร กิจไพฑูรย์

ฝ่ายการตลาด

ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET)

โทร 0-2263-9888, 0-2251-9535

หรือ www.afet.or.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ