สรุปการสัมมนาเวทีสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (FPO Forum) หัวข้อ “ประกันราคาพืชผลคนไทยได้อะไร”

ศุกร์ ๑๘ กันยายน ๒๐๐๙ ๐๙:๕๙
วันนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดสัมมนาเวทีสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (FPO Forum) ในหัวข้อ “ประกันราคาพืชผลคนไทยได้อะไร” ณ ห้องประชุม 401 สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการและรักษาการผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร รศ. สมพร อิศวิลานนท์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายไกวัล กล้าแข็ง นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ กรมส่งเสริมการเกษตร และนายพิเชษฐ์ ตระกูลกาญจน์ นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดิน 8 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยมีนางรัตน์เกล้า ลีวีระพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนกลยุทธ์และพัฒนาสถาบันการเงินเฉพาะกิจ สำนักนโยบายระบบการเงินและสถาบันการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นผู้ดำเนินรายการ

นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ กล่าวโดยสรุปว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรเป็น มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าว ที่จะไม่บิดเบือน กลไกตลาด และช่วยลดภาระงบประมาณของรัฐ โดยการประกันรายได้เกษตรกรจะครอบคลุม พื้นที่เพาะปลูกมันสำประหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าวนาปี ปีการผลิต 2552/2553 ทั่วประเทศ และคาดว่าปริมาณเป้าหมายสำหรับมันสำปะหลังอยู่ที่ 29.7 ล้านตัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อยู่ที่ 4.25 ล้านตัน และข้าวเปลือกนาปีอยู่ที่ 23.5 ล้านตัน โดยราคาประกันมันสำปะหลังเชื้อแป้ง 25% อยู่ที่1.70 บาทต่อกิโลกรัม ราคาประกันข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ความชื้น 14.50% อยู่ที่กิโลกรัมละ 7.10 บาทต่อกิโลกรัม และราคาประกันข้าวเปลือกหอมมะลิ ความชื้น 15% อยู่ที่ตันละ 15,300 บาท

นายไกวัล กล้าแข็ง กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ให้ข้อมูลในการขึ้นทะเบียนของเกษตรกร ซึ่งมีความสำคัญต่อการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกร โดยเป็นหลักฐาน การเข้าร่วมโครงการของเกษตรกรทั่วประเทศ ประกอบด้วยมีข้อมูลจำนวนเกษตรกร พื้นที่เพาะปลูกและผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งขณะนี้ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไปแล้วร้อยละ 76.16 และร้อยละ 92.78 ตามลำดับ ส่วนการขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปีนั้น ดำเนินการไปแล้วร้อยละ 62.47 แต่คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ครบภายในเวลาที่กำหนด

รศ. สมพร อิศวิลานนท์ ได้กล่าวว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกร ทำให้คนไทยได้กลไกตลาดข้าวทั้งระบบคืนมา เนื่องจากที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2547 การดำเนินนโยบาย รับจำนำข้าวเปลือก ซึ่งตั้งราคาเป้าหมายสูงกว่าระดับราคาตลาด ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวเปลือกและข้าวสารของเอกชนทั้งระบบ และโดยที่พื้นที่เพาะปลูกและจำนวนเกษตรกร มีจำนวนมาก จึงขอให้ภาครัฐเร่งดำเนินการจดทะเบียนเกษตรกร และสร้างความเข้าใจให้กับเกษตรกรอย่างทั่วถึงโดยเร็ว

นายพิเชษฐ์ ตระกูลกาญจน์ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวว่าในการตรวจสอบการดำเนินงานภายใต้โครงการรับจำนำที่ผ่านมา พบว่ามีความล่าช้า และเป็นห่วงว่าในการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรในครั้งนี้ก็คงจะมีความล่าช้าเช่นกัน โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการขึ้นทะเบียนเกษตรกร จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO