ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทยในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ นอกจากปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจในภาคส่วนต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศแล้ว ในส่วนของไมโครไฟแนนซ์ ธนาคารให้ความสำคัญเช่นกัน โดยมีฝ่ายงานธนาคารชุมชนทำหน้าที่ดูแลโดยเฉพาะ ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนรายย่อยได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินในภาคประชาชน
“ธนาคารชุมชนได้ปล่อยกู้ผ่านกองทุนหมู่บ้าน เพื่อให้กู้ต่อกับสมาชิกในหมู่บ้าน โดยขณะนี้ปล่อยกู้ให้กับกองทุนหมู่บ้านในระดับ AAA ไปแล้วจำนวน 709 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมากองทุนหมู่บ้านที่ธนาคารปล่อยกู้เป็นกองทุนหมู่บ้านที่มีความเข้มแข็งและมีการจัดการที่เป็นระบบ ทำให้เกิดหนี้เสียน้อยมาก โดยมีหนี้เสียเพียง 1.15% เท่านั้น ในส่วนของสินค้า OTOP ธนาคารมีโครงการสนับสนุนสินเชื่อ โดยได้ปล่อยกู้ไปแล้วเป็นวงเงิน 60 ล้านบาท และให้ลูกค้านำสินค้า OTOP มาจำหน่ายที่สาขาอีกด้วย”
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน โดยการเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินให้กว้างขวาง โดยเฉพาะในกลุ่มไมโครไฟแนนซ์ ด้วยการเปิดจุดบริการในลักษณะ Convenience Counter หรือเคาน์เตอร์แสนสะดวก โดยได้นำ Software ในระบบฝากถอนเงินและ Payment ไปติดตั้งให้กับตัวแทนบริการของธนาคาร ซึ่งเป็นพันธมิตรกับธนาคาร เช่น กองทุนหมู่บ้าน สหกรณ์ ซึ่งธนาคารได้ขออนุญาตไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อขอเปิดจุดบริการจำนวน 23 จุด ได้รับอนุมัติ 19 จุด และได้เปิดให้บริการไปแล้ว 14 จุด
อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงเดินหน้าในการเพิ่มการเข้าถึงการให้บริการทางการเงินที่หลากหลาย เพื่อลดภาระของประชาชนในการกู้เงินนอกระบบ ด้วยการขยาย Convenience Counter หรือเคาน์เตอร์แสนสะดวก เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ในชุมชนต่างๆ โดยมีแผนขยาย Convenience Counter หรือเคาน์เตอร์แสนสะดวกอีก 100 จุดในปีหน้า ตามวิสัยทัศน์การเป็น The Convenience Bank
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์
โทร.0-2208-47-174-7