ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มลดลง จากแรงขายทำกำไรต่อเนื่องทั้งในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ตลาดทองคำ ตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ หลังเริ่มมีสัญญาณว่าธนาคารกลางทั่วโลกกำลังพูดถึง EXIT Strategy มากขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐที่อยู่ในระดับต่ำก็เริ่มขยับขึ้นบ้างแล้ว แม้ตัวเลขเศรษฐกิจยังคงทยอยออกมาดีต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยหนุนให้นักลงทุนโยกย้ายเงินออกจากดอลลาร์เข้าสู่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นก็ตาม (ดูข่าวสารสำคัญเพื่อการลงทุนในหน้าถัดไป)
กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Source : Bisnews (Daily)
Source : Bisnews (30 Min)
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดเป็นบวก, MACD 30 นาทีเคลื่อนอยู่ในแดนลบ ทำให้ดูทิศทางเป็นลบ, MACDF 30 เคลื่อนอยู่ในแดนลบ ทำให้ดูทิศทางเป็นลบ, Fast Stochastic เคลื่อนตัวขึ้น ทำให้ราคามีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้น, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 39.051 ถือเป็นระดับ oversold อยู่เล็กน้อยทำให้ดูว่าราคามีโอกาสปรับตัวขึ้น, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็น Sideways-up, แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $1,002-$1,014 ค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿33.60-฿33.76
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางเป็นขาขึ้น, RSI อยู่ที่ระดับ 60.593 ถือเป็นระดับ overbought อยู่เล็กน้อยทำให้ดูว่าราคามีโอกาสปรับตัวลง, MACD เคลื่อนตัวลงอยู่ในแดนบวกทำให้ดูราคาเป็นลบ, MACDFเคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวกทำให้ดูตลาดเป็นบวก, Fast-Stochastic กำลังเคลื่อนตัวลงทำให้ราคามีโอกาสปรับตัวลง, ทิศทางตลาดระยะกลางเป็นตลาด Bull โดยจะใช้แนวต้านที่ $1,035 เป็นต้านระยะกลางที่สำคัญ ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $970 และ $940 ตามลำดับ
ตาราง 3 : แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
Source: YLG’s estimations
พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 16,150 บาท) ซึ่งสูงกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 16,080 หรือที่ $1,003.50) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ 70 บาท ขณะที่ราคาของ GFV09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 16,020 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาในตลาดโลกเท่ากับ 60 บาท ซึ่งเท่ากับว่า GFV09 มีส่วนลดมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การขาย (Short) ทองแท่งที่ร้านทองแล้วมาเปิดสถานะซื้อ (Long) GFV09 จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 70+60 = 130 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท ซึ่งยังคงไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) และดอกเบี้ยอีกราว 25 บาทในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
ภาวะเศรษฐกิจโลก - นายโดมินิค สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกน่าจะฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยในช่วงครึ่งแรกของปี 2010 แต่จะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการทำให้อัตราการว่างงานลดลง ในขณะที่มีความก้าวหน้ามากขึ้นในการผลักดันการคุมเข้มกฎระเบียบตลาดการเงิน เพื่อจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดวิกฤติแบบเดียวกันนี้ขึ้นอีก
ปัจจัยลบ
ธนาคารกลางญี่ปุ่น - นายฮิโรฮิเดะ ยามากูชิ รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า การที่ BOJ ให้การสนับสนุนเงินทุนแก่ภาคเอกชนเป็นเวลานานเกินไปอาจทำลายกลไกตลาด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า BOJ อาจตรวจสอบความเป็นไปได้ในการยกเลิกมาตรการพิเศษบางส่วนที่จะหมดอายุลงในเดือน ธ.ค.นี้ ขณะที่นายมาซาอากิ ชิราคาวะ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่า การแทรกแซงของBOJ ในตลาดสินเชื่อภาคเอกชน มีจุดประสงค์เพื่อจัดการกับวิกฤติที่เลวร้ายที่ขณะนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่ามีความต้องการสินเชื่อในภาคเอกชนลดน้อยลง
ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์ปิดแข็งค่าขึ้น -$0.0049 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4737 จากที่ปิด $1.4689 เมื่อวันก่อนหน้า หลังนักลงทุนขายทำกำไรยูโรออกมา ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวน ส่วนเช้านี้ดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย +$0.0022 มาที่ $1.4711
ราคาน้ำมันดิบ — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ต.ค. ลดลง -$0.43 มาที่ $72.04 ต่อบาร์เรล จากที่ปิด $72.47 ต่อบาร์เรลเมื่อวันก่อนหน้า หลังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ต.ค. ขยับขึ้น +$0.11 มาอยู่ที่ $72.15 ต่อบาร์เรล
ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น -2 สต. มาที่ 33.67 บาท จากที่ปิด 33.69 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า โดยเป็นผลจากกระแสเงินทุนที่ยังไหลเข้ามาในประเทศ และตลาดหุ้นที่ยืนบวกได้ ขณะที่การนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง กลับไม่ได้มีผลต่อค่าเงินบาทมากนัก ขณะที่เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าลง +4 สต. มาที่ 33.71 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 33.60 บาทและ 33.54 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 33.76 บาทและ 33.86 บาท
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — คืนนี้
1. Conference Board จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนส.ค. เวลา 19.30 น. โดยผลสำรวจคาดว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น +0.7% ในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น +0.6% ในเดือนก.ค.
กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 18 ก.ย.52 เพิ่มขึ้น ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,086.48 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.53 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34.93 ล้านออนซ์
G-20 — การประชุม G-20 จะมีขึ้นในวันที่ 24-25 ก.ย. ที่เมืองพิตส์เบิร์ก โดยมีประเด็นสำคัญในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การระดมทุนให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และการปฏิรูปกฎระเบียบ เพื่อเป็นแนวทางในการทำให้เศรษฐกิจโลกเติบโตอย่างมีความสมดุลมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี กลุ่ม G-20 จะยังคงยึดมั่นในแนวทางที่จะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งกว่านี้
ธนาคารกลางสหรัฐ - คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะประชุมกันที่วอชิงตันในวันที่ 22-23 ก.ย. เพื่อหารือว่าควรจะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใด โดยประเด็นสำคัญคือเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายควรจะเริ่มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเพียงไร เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดเงินเฟ้อทันทีที่เศรษฐกิจแสดงสัญญาณการขยายตัวที่ยั่งยืน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้มีการเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในช่วงสั้นๆ
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com