นายพรชัย อยู่ประยงค์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลให้ความสำคัญในการดำเนินการด้านโลจิสติกส์ เพราะเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนสินค้าและบริการ และระบบ โลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพจะทำให้ต้นทุนรวมของสินค้าลดลงสินค้าถึงมือผู้บริโภคเร็วขึ้น ส่งผลให้เกิดการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งทางถนน ซึ่งรถบรรทุกเป็นการขนส่งหลัก ที่มีสัดส่วนหลักสูงสุด ประมาณร้อยละ 88 ของการขนส่งทั้งหมด ในขณะที่การขนส่งทางรถไฟและทางน้ำมีน้อยมาก โดยผู้ประกอบการรถบรรทุกส่วนใหญ่เป็น SME s
อย่างไรก็ตามปัจจุบันคู่แข่งขัน โดยเฉพาะสถานประกอบการขนาดใหญ่ของต่างชาติ ซึ่งมีแหล่งเงินทุนสูงและมีบริการครบวงจร ดังนั้นเพื่อให้สถานประกอบการของคนไทยสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์ ทั้งเจ้าของกิจการ เองและพนักงานขับรถซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินกิจการ โดยในส่วนของเจ้าของสถานประกอบการจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจด้านโลจิสติกส์ รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับการบริหารงาน และการสั่งงานเชิงบวก เพื่อให้สินค้าถึงมือผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว มีความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
ด้านนายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจึงพัฒนาทักษะส่วนที่จำเป็น ให้แก่พนักงานขับรถบรรทุก ซึ่งส่วนใหญ่ยังขาดการพัฒนาความรู้และทักษะ และเจ้าของสถานประกอบการเป็นปัจจัยสำคัญประการแรกที่จะทำให้เกิดการพัฒนาความรู้ให้กับพนักงานขับรถบรรทุก โดยร่วมกับภาคเอกชนพัฒนาบุคลากรของสถานประกอบการขนส่ง จำนวน 360 คน ประกอบด้วยร่วมกับสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยศึกษารูปแบบการพัฒนาสถานประกอบการรถบรรทุกมืออาชีพ มีบุคลากรของสถานประกอบการขนส่งเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 200 คน ฝึกอบรมหลักสูตรผู้บริหารรุ่นใหม่ในธุรกิจบริการด้านการขนส่ง ฝึกอบรมหลักสูตรการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับ FTA โลจิสติกส์ โดยมีเจ้าของกิจการ/ผู้บริหาร เข้ารับการฝึกอบรม ฝึกอบรมหลักสูตรพัฒนาพนักงานขับรถบรรทุกมืออาชีพ และร่วมกับสมาพันธ์ โลจิสติกส์ไทย นำร่องการพัฒนาพนักงานพนักงานขับรถบรรทุกมืออาชีพ จำนวน 160 คน
นางวัลภา สถิรชวาล เลขาธิการสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย ให้ความเห็นต่อการฝึกอบรมโลจิสติกส์ตามโรงการดังกล่าวว่า คุณธรรมและจริยธรรม ตลอดจนความภูมิใจในวิชาชีพเป็นสิ่งสำคัญและสามารถส่งเสริมให้ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมในวันนี้เป็นคนขับรถระหว่างประเทศได้ ซึ่งหากมีการขยายผลต่อไปก็จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสทางการค้าได้
นายทองอยู่ คงขันธ์ นายกสมาคมขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออกและเลขาธิการสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันภาคเศรษฐกิจและสังคมมีความต้องการบุคลากรด้านโลจิสติกส์ถึง 2 ล้านคน โดยในระหว่างปี 52-54 มีแผนที่จะพัฒนาบุคลากรทั้งระดับล่างและระดับซุปเปอร์ไวเซอร์ โครงการความร่วมมือนี้เป็นโครงการที่ดี ซึ่งทางสมาพันธ์ขอขอบคุณที่กระทรวงแรงงานยังดูแลแรงงานระดับล่างเพราะจะเป็นรากฐานให้แก่แรงงานระดับสูงต่อไป ทางสมาพันธ์เองก็ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรและจะมีการหาแรงจูงใจให้แกพนักงานที่ผ่านการพัฒนาฝีมือแรงงานทั้งนี้นโยบายในพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์ ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งอินโดจีนอันเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการลงทุน ซึ่งกรมพัฒนาฝีมือแรงงานมีการฝึกอบรมด้านโลจิสติกส์ในสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาคและศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีหลักสูตรมฝึกอบรมทั้งสำหรับแรงงานระดับล่างและหัวหน้างาน