ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนโครงการ "จิมมี่-โรสลิน คาร์เตอร์ สร้างบ้าน” ลุ่มน้ำโขง 2552 ขององค์การที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติสากล ซึ่งมีเป้าหมายร่วมสร้างบ้านให้ผู้ด้อยโอกาสด้านที่อยู่อาศัย ใน 5 ประเทศแถบลุ่มน้ำโขง เริ่มโครงการนำร่องสร้างบ้านระยะแรกที่ประเทศไทย ตั้งเป้าสร้างบ้านจำนวน 82 หลัง ที่เชียงใหม่ พร้อมกันนี้ ธนาคารยังได้สนับสนุนสินเชื่อรายย่อยด้านที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง เพื่อร่วมพัฒนาและแก้ไขที่อยู่อาศัยให้ประชาชนผู้ยากไร้ในชุมชนทั่วประเทศไทยให้กับสมาชิกมูลนิธิฯ อีกด้วย
นางจามรี เศวตจินดา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารมีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนโครงการ “จิมมี่-โรสลิน คาร์เตอร์ สร้างบ้าน” ลุ่มน้ำโขง 2552 เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ด้อยโอกาสด้านที่อยู่อาศัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยธนาคารได้รับสิทธิเป็นผู้สนับสนุนการสร้างบ้านในโครงการจำนวน 1 หลัง ที่ จังหวัดเชียงใหม่ ในระหว่างวันที่ 15-20 พ.ย.ศกนี้ พร้อมเปิดโอกาสให้พนักงานที่มีจิตอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการฯ สร้างบ้านในครั้งนี้ เพื่อเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญในชีวิต สืบเนื่องจากคณะกรรมการกำหนดแนวทางความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (CSR) เห็นชอบและให้ความสำคัญโดยตระหนักถึงการมีจิตอาสาและสำนึกรักในด้านการแสดงออกซึ่งความรับผิดชอบต่อสังคมในการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งเป็นการสร้างความภาคภูมิใจในการทำงานร่วมกับองค์กรและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของธนาคารในด้าน
กิจกรรม CSR ของธนาคาร
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2552 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงโครงการ “สนับสนุนสินเชื่อรายย่อยด้านที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง” ร่วมกับมูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติประเทศไทย (Habitat) เพื่อที่จะช่วยพัฒนาและเร่งแก้ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยโดยจะสนับสนุนสินเชื่อรายย่อยให้แก่สมาชิกมูลนิธิฯ ที่ต้องการกู้เพื่อปลูกสร้างบ้านตามแบบมาตรฐานของมูลนิธิฯ หรือให้กู้เพื่อต่อเติม ขยาย และซ่อมแซมบ้านให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น โดยธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามประกาศของธนาคาร ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัวพิเศษของ ธอส.เท่ากับ MRR - 2% ในปีที่ 1 ถึง 3 หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MRR - 0.50 ตลอดอายุสัญญากู้ (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 7.00%)
“ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ในฐานะสถาบันการเงินหลักในการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และเป็นกลไกของภาครัฐ ในการช่วยเหลือสนับสนุนให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และธนาคารได้กำหนดวงเงินสินเชื่อสำหรับกลุ่มสมาชิกมูลนิธิฯ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยในชุมชน โดยขจัดบ้านชำรุดทรุดโทรม และการไร้ที่อยู่อาศัยให้หมดไปจากสังคมไทย ด้วยการสร้างบ้านที่เรียบง่าย น่าอยู่ และเหมาะสมตามควรแก่อัตภาพ จำนวนกว่า 2,300 ราย วงเงินประมาณ 200 ล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อสำหรับการสร้างบ้านใหม่ 1,500 ราย วงเงิน 180 ล้านบาท และเป็นสินเชื่อสำหรับการต่อเติม ขยาย และซ่อมแซมบ้าน จำนวน 800 ราย วงเงิน 20 ล้านบาท โดยที่มูลนิธิฯ จะเป็นผู้คัดเลือกครอบครัวเพื่อให้ความช่วยเหลือในการสร้างที่อยู่อาศัยได้อย่างเพียงพอให้กับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง รวมถึงดำเนินการสร้างบ้านราคาถูกให้แก่ผู้กู้ด้วยราคาต้นทุนต่ำ ตลอดจนการควบคุมการชำระหนี้ให้เป็นไปตามสัญญากู้ของธนาคาร” นางจามรี กล่าว
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ให้บริการด้านการเงินเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลัก และมุ่งสานฝันคนไทยให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ตามควรแก่อัตภาพ ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมในด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของธนาคารทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ด้านการศึกษาเพื่อคุณภาพชีวิต ด้านการกีฬา ด้านที่อยู่อาศัย ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านศาสนาและศิลปวัฒนธรรม รวมถึงด้านการกุศลช่วยเหลือผู้ประสบภัย ธนาคารได้เห็นถึงความสำคัญจึงได้สนับสนุนโครงการดังกล่าว รวมถึงการมีจิตอาสาในการช่วยเหลือเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมโดยรวม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 0-2645-9000