กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Source : Bisnews (Daily)
Source : Bisnews (30 Min)
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะสั้นเป็นขาขึ้น, MACD 30 นาทีเคลื่อนอยู่ในแดนบวกทว่าได้ตัดเส้น Trigger จากด้านบนทำให้ดูราคาเป็นลบ, MACDF 30 เคลื่อนตัวอยู่ในแดนลลบ ทำให้ดูราคาเป็นลบ, Fast Stochastic เคลื่อนตัวขึ้น ทำให้ราคามีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้น, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 53.686 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็น Bull, แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $1,049 - $1,060 ค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿33.24 - ฿33.41
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางเป็นขาขึ้น, RSI อยู่ที่ระดับ 77.245 ถือเป็นระดับ overbought และทำให้ดูว่าราคามีโอกาสปรับตัวลง, MACD เคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวกและได้ตัดเส้น Signal จากด้านล่างทำให้ดูราคาเป็นบวก, MACDFเคลื่อนอยู่ในแดนบวก ทำให้ดูทิศทางเป็นบวก, Fast-Stochastic เคลื่อนตัวอยู่เหนือเส้น Trigger ทำให้ ราคามีโอกาสจะกลับตัวลง ทิศทางตลาดระยะกลางเป็นตลาด Bull โดยจะใช้แนวต้านที่ $1,065 เป็นแนวต้านระยะกลางที่สำคัญ ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $1,020 และ $985 ตามลำดับ
ตาราง 3 : แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
Source: YLG’s estimations
พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 16,500 บาท) ซึ่งต่ำกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 16,710 หรือที่ $1,055.05) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีส่วนลดจากราคาในตลาดโลก อยู่ 210 บาท ขณะที่ราคาของ GFV09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 16,520 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาในตลาดโลกเท่ากับ 190 บาท ซึ่งเท่ากับว่า GFV09 มีส่วนลดน้อยกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การซื้อ (Long) ทองแท่งที่ร้านทองแล้วมาเปิดสถานะขาย (Short) GFV09 จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 210-190 = 20 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท ซึ่งยังคงไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) และดอกเบี้ยอีกราว 15 บาท ในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
ภาวะเศรษฐกิจอังกฤษ — นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ของอังกฤษวางแผนที่จะเปิดเผยรายละเอียดของการขายสินทรัพย์ของรัฐบาลในวันนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมเงิน 3 พันล้านปอนด์ (4.8 พันล้านดอลลาร์) เพื่อหาเงินลดขาดดุลงบประมาณ โดยการขายสินทรัพย์จะดำเนินการในช่วง 2 ปีข้างหน้า และจะรวมถึง 1. บริษัท Tote ซึ่งทำธุรกิจการพนัน 2. ทางรถไฟเชื่อมข้ามอุโมงค์ระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส 3. พอร์ทเงินกู้นักศึกษา และ 4. หุ้นของรัฐบาลในบริษัทยูเรนโก ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยูเรเนียม ทั้งนี้ งบประมาณขาดดุลของอังกฤษจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2.20 แสนล้านปอนด์หรือ 12% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งสูงกว่าประเทศส่วนใหญ่ และการปรับลดงบประมาณขาดดุลจะเป็นประเด็นทางการเมืองที่สำคัญต่อการเลือกตั้งทั่วประเทศในเดือนมิ.ย.ปีหน้าด้วย
? ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์ปิดอ่อนค่าลง +$0.0046 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4773 จากที่ปิด $1.4727 เมื่อวันก่อนหน้า หลังธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนเงินสำรองระหว่างประเทศจากสกุลเงินดอลลาร์ไปเป็นสกุลเงินยูโรและสกุลเงินเยนมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลสหรัฐก็ดูเหมือนจะพึงพอใจต่อการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์จากการที่จะได้ส่งออกสินค้าและบริการมากขึ้นนั่นเอง ส่วนเช้านี้ดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก +$0.0016 มาที่ $1.4789
ราคาน้ำมันดิบ — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน พ.ย. ขยับขึ้น +$1.50 มาที่ $73.27 ต่อบาร์เรล จากที่ปิด $71.77 ต่อบาร์เรลเมื่อวันก่อนหน้า หลังดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์และสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง เนื่องจากเชื่อว่าบริษัทเอกชนของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงเกินคาด ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน พ.ย. ร่วงลง -$0.31 มาอยู่ที่ $72.96 ต่อบาร์เรล
ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง +1 สต. มาปิดที่ 33.31 บาท จากที่ปิด 33.30 บาทเมื่อวันก่อนหน้า หลังอ่อนค่าลงมาในภาคเช้า ก่อนที่ช่วงบ่ายยูโรจะกลับมาแข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นแรงหนุนให้บาททรงตัวอยู่ได้ ขณะที่แนวโน้มในระยะถัดไป ยังเชื่อว่าบาทจะยังแข็งค่าขึ้นได้ โดยมีปัจจัยบวก จากผลประกอบการไตรมาส 3/52 ของบริษัทในสหรัฐที่คาดว่าจะออกมาดี ซึ่งจะหนุนตลาดหุ้นและสกุลเงินต่างๆ ขณะที่เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าลงอีก +2 สต. มาที่ 33.33 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 33.24 บาทและ 33.16 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 33.41 บาทและ 33.50 บาท
ปัจจัยลบ
Exit Strategy — ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะตัดสินใจในสัปดาห์นี้ว่าจะเริ่มถอนเงินที่เคยใช้สำหรับซื้อหุ้นกู้ของบริษัทเพื่อผ่อนคลายภาวะสินเชื่อตึงตัวที่ตามกำหนดการเดิมจะสิ้นสุดภายในปีนี้ หลังธุรกิจต่างๆในญี่ปุ่นสามารถหาแหล่งเงินกู้ได้เองแล้ว แต่ธนาคารกลางจะยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำที่ 0.1% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — คืนนี้
1. สหรัฐจะรายงานยอดการขาดดุลงบประมาณเดือน ก.ย. เวลา 01:00 น. โดยผลสำรวจคาดว่ายอดการขาดดุลงบประมาณจะอยู่ที่ -3.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือน ก.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ขาดดุลงบประมาณถึง -11.14 หมื่นล้านดอลลาร์
กองทุนทองคำ — กองทุนทองคำ SPDR ได้รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 12 ต.ค.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,109.31 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.78 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 35.66 ล้านออนซ์
ปฏิทินการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
Source : Bloomberg
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com