ทิสโก้โชว์ผลประกอบการโดดเด่น 9 เดือน กำไรเพิ่ม 10.6%

พฤหัส ๑๕ ตุลาคม ๒๐๐๙ ๑๗:๓๑
กลุ่มทิสโก้โชว์ผลประกอบการรอบ 9 เดือน และไตรมาส 3 ปี 52 กำไรยังเติบโตโดดเด่น พร้อมคุมเอ็นพีแอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลุยเดินหน้าขยายธุรกิจตอบโจทย์ทุกความต้องการ ชู “บัญชีเงินฝากซุปเปอร์ออมทรัพย์” ให้อัตราดอกเบี้ย 1.50 % สูงสุดในระบบธนาคารพาณิชย์ ขยายฐานบัญชีลูกค้าออมทรัพย์ต่อเนื่อง นายปลิว มังกรกนก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ ในช่วง 9 เดือน (ม.ค. — ก.ย.) ที่ผ่านมา ยังคงมีการเติบโตอย่างมีคุณภาพต่อเนื่อง และด้วยศักยภาพที่แข็งแกร่งจึงยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและเพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยล่าสุดในเดือนกันยายน 2552 ทางธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทย่อยของกลุ่มทิสโก้ ได้ลงนามสัญญาความตกลงทางธุรกิจเพิ่มเติมร่วมกับบริษัท เชฟโรเลตเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในการให้การสนับสนุนทางการเงิน สินเชื่อฟลอร์แพลน แก่ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตกว่า 100 แห่งทั่วประเทศในวงเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้ยังจะนำมาซึ่งการต่อยอดทางธุรกิจในด้านอื่น ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุดอีกด้วย ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การขยายตัวด้านสินเชื่อของกลุ่มทิสโก้

ด้านนางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการอำนวยการ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3 ของปี 2552 (ก.ค. — ก.ย.) กลุ่มทิสโก้มีผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 512.68 ล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิที่เพิ่มขึ้น 52.5% ตามการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อรายย่อยซึ่งเพิ่มขึ้น 14.3 % และการปรับตัวสูงขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของเงินให้สินเชื่อจาก 3.7 % เป็น 5.2% ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 732.25 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 142.30 ล้านบาท หรือ 24.1% จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น 46.7% และรายได้จากธุรกิจจัดการกองทุนที่เพิ่มขึ้น 43.3%

สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2552 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 1,468.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140.50 ล้านบาท หรือ 10.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 1,328.29 ล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิที่เพิ่มขึ้น 36.4% ตามการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อรายย่อย และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยโดยรวมเพิ่มขึ้น 92.96 ล้านบาท หรือ 4.9%

ส่วนเงินให้สินเชื่อของกลุ่มทิสโก้ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2552 มีจำนวน 116,781 ล้านบาท แบ่งออกเป็น สินเชื่อรายย่อย 75.5% สินเชื่อธุรกิจ 19.9% และสินเชื่ออื่นๆ 4.6% โดยในส่วนของสินเชื่อรายย่อย ประกอบด้วย สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์และอื่นๆ 98.2% และสินเชื่อเพื่อการเคหะ 1.8% ทั้งนี้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่อนุมัติใหม่มีจำนวน 9,877.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 578.53 ล้านบาท หรือ 6.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ในส่วนของยอดขายรถยนต์ใหม่ภายในประเทศ งวด 8 เดือนแรกของปี 2552 นั้น อยู่ที่ 317,836 คัน ลดลง 22.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อัตราปริมาณการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ของกลุ่มทิสโก้ต่อปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ใหม่เฉลี่ย (Penetration Rate) ใน 8 เดือนแรกของปี 2552 อยู่ที่ 12.9% ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 9.8%

ขณะที่เงินฝากรวมมีจำนวน 104,520.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,366.55 ล้านบาท หรือ 1.3% จากสิ้นไตรมาส 2/52 ตามการขยายตัวของฐานเงินฝากออมทรัพย์และเผื่อเรียกเป็นผลจากการที่ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากในรูปแบบที่หลากหลาย โดยสัดส่วนเงินฝากประเภทเงินฝากออมทรัพย์และเผื่อเรียกต่อยอดเงินฝากอยู่ที่ระดับเดียวกับไตรมาสที่แล้ว คิดเป็น 23.6%

นางอรนุช กล่าวเพิ่มเติมว่า ในไตรมาส 3 ปี 2552 กลุ่มทิสโก้สามารถลดอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL)จาก 2.9% เป็น 2.6% ด้วยการบริหารจัดการสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการติดตามชำระหนี้ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ รวมทั้งตัดจำหน่ายหนี้สูญที่รัดกุม โดยกลุ่มทิสโก้ใช้วิธีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสําหรับพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ตามเกณฑ์ Basel II ด้วยวิธี Collective Approach ซึ่งเป็นการตั้งสำรองตามประมาณค่าความสูญเสียที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอีก 12 เดือนข้างหน้า (Expected Loss) จากพอร์ตสินเชื่อดังกล่าว โดยใช้ข้อมูลสถิติหนี้เสียของพอร์ตสินเชื่อในอดีต ประกอบกับการปรับปรุงข้อมูลให้เข้ากับสถานการณ์ล่าสุดในปัจจุบัน ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของกลุ่มในการตั้งสำรองอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการดำเนินงาน

นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการอำนวยการ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงเป้าหมายด้านเงินฝากว่า ธนาคารมีสัดส่วนเงินฝากรายย่อยประเภทออมทรัพย์และเผื่อเรียกเพิ่มขึ้นเป็น 24% จาก 11% ในปี 2551 ทั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้ารายย่อยด้วยการระดมเงินฝาก “ซุปเปอร์ออมทรัพย์” ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดในระบบธนาคารพาณิชย์ โดยให้อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 1.50% มีความคล่องตัวกว่าฝากประจำ และไม่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ธนาคารจะยังคงขยายฐานลูกค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับสัดส่วนเงินฝากให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังได้มีการปรับโครงสร้างสายงาน Wealth Management ให้สามารถตอบสนองความต้องการด้านการออมและการลงทุนของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า “ทิสโก้มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างหลากหลายทั้งในตลาดเงินและตลาดทุน เพราะเรามีประสบการณ์ในธุรกิจเงินทุนหลักทรัพย์มาก่อน สายงาน Wealth Management จะเป็นการรวมความเชี่ยวชาญทุกด้านไว้ในทีมเดียวกันเพื่อบริการลูกค้าอย่างครบวงจร”

ในไตรมาส 3 ปี 2552 นี้ ธนาคารทิสโก้เปิดสาขาใหม่อีกจำนวน 4 สาขา ล่าสุดคือ สาขาวรจักร ทำให้ปัจจุบันธนาคารทิสโก้มีสาขารวมทั้งหมด 41 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้า เพิ่มปริมาณธุรกิจในการระดมเงินฝากและการปล่อยสินเชื่อ และเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าของธนาคารที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ธนาคารมีอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ที่แข็งแกร่งและเพียงพอต่อการขยายธุรกิจในอนาคตที่ระดับ 15.47%

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

สุภานี นรสุภา, เสาวนีย์ สันทบ

ฝ่ายนิเทศสัมพันธ์ บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

โทร. 02 633 6904-6

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO