เช็คพอยท์ ซิสเต็มส์ บริษัทชั้นนำระดับโลกผู้จัดหาโซลูชั่นสำหรับทำแถบฉลากสินค้าและป้องกันสินค้าสูญหาย ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทกำลังร่วมมือกับ เมโทร กรุ๊ป (METRO Group) บริษัทชั้นนำของโลกในอุตสาหกรรมค้าปลีก เพื่อทดลองใช้ระบบป้องกันการขโมยในร้านค้าปลีกโดยใช้คลื่นวิทยุ (RFID-based EAS solution)
เช็คพอยท์ดำเนินการระบบ RFID-based EAS ตามแนวทางปฏิบัติ Strategic Overview Guide และ Technical Implementation Guide ซึ่ง GS1 EPCglobal ประกาศใช้ในวันนี้ โดยบริษัททำงานอย่างใกล้ชิดกับ GS1 EPCglobal เพื่อพัฒนาแนวทางปฏิบัติเหล่านี้ ซึ่งจะมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับวิวัฒนาการของระบบ EAS (Electronic Article Surveillance)
“เรายินดีที่เมโทร กรุ๊ป ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรมล่าสุดนี้” ร็อบ แวน เดอร์ เมอร์วี ประธานกรรมการ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเช็คพอยท์ ซิสเต็มส์ กล่าว “ในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุนการจัดทำ GS1 EPCglobal Guides เช็คพอยท์มีความมุ่งมั่นมาตั้งแต่แรกเริ่มที่จะจัดทำระบบ RFID-based EAS ที่มีความครอบคลุมและเป็นผู้นำอุตสาหกรรม ความถี่วิทยุ (RF) ถือเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจของเช็คพอยท์ ดังเช่นที่ปรากฏให้เห็นในประวัติศาสตร์การพัฒนาโซลูชั่น RF ของเราเพื่อนำไปประยุกต์ใช้งานด้านต่างๆในอุตสาหกรรมค้าปลีก RFID-based EAS ถือเป็นวิวัฒนาการที่เป็นธรรมชาติและน่าตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งสำหรับบริษัท เราภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับเมโทร กรุ๊ป ในโครงการริเริ่มครั้งสำคัญนี้”
คุณประโยชน์ต่างๆสำหรับผู้ค้าปลีก
ผู้ค้าปลีกจะได้รับประโยชน์มากมายจากระบบ RFID-based EAS ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนให้ GS1 EPCglobal ริเริ่มพัฒนาแนวทางปฏิบัติใหม่ๆ RFID-based EAS จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถจัดการกับความท้าทายที่สำคัญ ซึ่งก็คือรายการสินค้าคงคลังคลาดเคลื่อนอันเนื่องมาจากสินค้าถูกขโมย โดย RFID ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ค้าปลีกรับรู้ว่ามีการขโมยสินค้าเกิดขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถทราบได้ด้วยว่าสินค้าชิ้นใดที่ถูกขโมยไป การมองได้อย่างทะลุนี้เองที่ทำให้ผู้ค้าปลีกเห็นระดับสินค้าคงคลังได้อย่างละเอียดแม่นยำมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ร้านค้าสามารถเติมสินค้าใหม่ได้ในทันที การปรับปรุงสต็อกสินค้าให้ดีขึ้นและการมีสินค้าวางอยู่บนชั้นสม่ำเสมอก็จะนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้น
“เมโทร กรุ๊ป กำลังทำงานร่วมกับเช็คพอยท์เพื่อจัดทำ RFID-based EAS ที่ได้มาตรฐาน เพื่อบรรเทาความสูญเสียและปรับปรุงการบริหารจัดการสินค้าของเราให้ดีที่สุด” ดร.เกิร์ด โวล์ฟแรม หัวหน้า CIO-Office ของเมโทร เอจี กล่าว “ความพยายามนี้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ RFID ของเราที่จะใช้แถบป้ายราคาในการบริหารจัดการซัพพลายเชนเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เรายินดีที่ได้สานต่อความร่วมมือกับเช็คพอยท์ และเรายินดีที่ระบบซึ่งได้มาตรฐาน GS1 กำลังจะทำประโยชน์ให้แก่ผู้ค้าปลีกและซัพพลายเออร์”
RFID-based EAS Guides ซึ่ง GS1 EPCglobal ได้เผยแพร่ในวันนี้ ถือเป็นแบบอย่างวิธีการใหม่สำหรับให้ผู้ค้าปลีกใช้ในการติดตามตรวจสอบและจัดการปัญหาสินค้าถูกขโมย” คริส แอดค็อก ประธานอีพีซีโกลบอล อิงค์ กล่าว “เทคโนโลยีรหัสสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (EPC/RFID) ถือได้ว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นกระบวนการบริหารจัดการสินค้าทั้งหมด ซึ่งช่วยให้ผู้ค้าปลีกลดปัญหาการขาดสินค้าได้อย่างดีเยี่ยม เสริมสร้างประสบการณ์ในการจับจ่ายให้กับผู้ซื้อ และเพิ่มยอดขายด้วยวิธีที่คาดไม่ถึง” เช็คพอยท์คือผู้นำในอุตสาหกรรมซึ่งมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการจัดทำแนวทางปฏิบัติ และพัฒนาระบบ RFID-based EAS ที่ได้มาตรฐาน
Evolve Platform ช่วยปูทางสู่การเปลี่ยนไปใช้ระบบ RFID EAS
เช็คพอยท์พัฒนาระบบ RF-based EAS มาเป็นเวลาหลายสิบปี ประสบการณ์นี้ได้นำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยี Evolve EAS ของบริษัท ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาจากแนวความคิดที่ต้องการสนับสนุน RFID จนกระทั้งได้มีการนำร่องไปใช้ที่ร้านค้าแห่งอนาคตของเมโทร กรุ๊ป ในปีพ.ศ. 2548
Evolve คือทางเลือกสำหรับร้านค้าปลีกต่างๆที่ต้องการระบบ EAS ที่ก้าวหน้าที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจาก Evolve สามารถสนับสนุนร้านค้าเหล่านี้ที่มีแผนจะเปลี่ยนไปใช้ระบบ RFID-based EAS เพื่อบริหารจัดการร้านค้าของพวกเขาในอนาคต ผู้ค้าปลีกที่ใช้ Evolve รู้ดีว่าการลงทุนของพวกเขาจะได้รับการคุ้มครองด้วยวิธีการต่างๆที่นำไปสู่ระบบ RFID ดังต่อไปนี้
1. ด้วย Evolve และแถบป้ายราคา RF EAS ของเช็ คพอยท์ ธุรกิจค้าปลีกจะสามารถปกป้องสินค้าทั้งหมดของตนเองจากการโจรกรรมและลดสัดส่วนการสูญหายของสินค้าที่ร้านค้าของตนเอง
2. การใช้ฉลากแบบดูอัล (Dual Tags) ของ Evolve ซึ่งรวมเทคโนโลยี RFID และ EAS ไว้ในฉลากเดียว จะทำให้ธุรกิจค้าปลีกสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นกระบวนการบริหารจัดการสินค้าทั้งหมด ด้วยการติดฉลากสินค้าโดยแยกเป็นประเภท ขณะเดียวกันก็ยังได้รับการปกป้องด้วยระบบ EAS อย่างเต็มที่ ฉลากแบบดูอัลของ Evolve สามารถจัดส่งให้กับผู้จำหน่ายทั่วโลกด้วยการใช้บริการ CheckNet(R) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเพื่อการบริหารข้อมูลและโลจิสติกส์ของเช็คพอยม์ที่พร้อมตอบสนองเทคโนโลยี RFID
3. เมื่อ RFID-based EAS ได้มีวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์แล้ว กลุ่มธุรกิจค้าปลีกก็สามารถเพิ่มอำนาจให้กับการลงทุนของตนเองได้ ด้วยการยกระดับ Evolve เป็นโซลูชั่น RFID-based EAS ด้วยการใช้ฉลาก RFID และด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มในวงเงินค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด
RFID-based EAS คือวิวัฒนาการของเทคโนโลยีซึ่งสามารถขยายออกได้อย่างกว้างขวาง ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถแบบเรียลไทม์ของ RFID เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันสินค้าสูญหาย ซึ่งจะช่วยก่อให้เกิดประโยชน์และความเข้าใจลึกซึ้ง เช็คพอยท์หวังว่า ผู้ที่นำไปประยุกต์ใช้เป็นรายแรกๆจะเป็นกลุ่มสินค้าไฮเอนด์และธุรกิจค้าปลีกรองเท้า รวมทั้งธุรกิจค้าปลีก cash-and-carry ที่ขายสินค้าเป็นกรณีๆไป
จุดยืนที่แตกต่างในการให้บริการ RFID-based EAS
ด้วยความสำเร็จของระบบ Evolve ซึ่งเป็นมรดกของแผนก RFID รวมไปถึง OATSystems และผลงานสร้างสรรค์โซลูชั่นต่างๆที่สมบูรณ์ ได้แก่ Apparel Labeling Solutions, เทคโนโลยีค้นหาแถบป้ายราคา Check-Net, ฉลาก RFID และ Merchandise Visibility solution เช็คพอยท์จึงเป็นบริษัทเพียงรายเดียวที่สามารถตอบสนองความท้าทายที่ซับซ้อนและโอกาสในการใช้ RFID-based EAS
“ไม่มีข้อสงสัยเลยว่า RFID-based EAS จะนำเสนอวิสัยทัศน์ในระยะยาวที่น่าตื่นเต้นสำหรับการรวมตัวในธุรกิจค้าปลีก” ดรูว์ นาธานสัน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการวิจัยของวีดีซี รีเสิร์ช กรุ๊ป กล่าวว่า “แม้ว่าจะมีอุปสรรคทางด้านเทคนิคมากมายที่เกี่ยวข้องกับโอกาสนี้ แต่บริษัทที่มีประสบการณ์และโซลูชั่นในเรื่องของเทคโนโลยีระดับ RF-item ก็อยู่ในจุดที่สามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆนานาและนำมาซึ่งโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพป้อนให้กับตลาด”
การทำงานร่วมกับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกชั้นนำระดับโลก
ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับ GS1 EPCglobal, เช็คพอยท์ และบริษัทอื่นๆ ทำให้เมโทร กรุ๊ป มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการพัฒนาแนวทางปฏิบัติ RFID-based EAS เพื่อช่วยธุรกิจค้าปลีกแก้ปัญหาการสูญหายของสินค้า และตอบสนองความต้องการในการมองเห็นสินค้า และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในด้าน RFID-based EAS ทางเมโทร กรุ๊ป จึงกำลังทดลองโซลูชั่น Evolve RFID-based EAS ของเช็คพอยท์อยู่ในขณะนี้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ธุรกิจค้าปลีกได้สัมผัสถึงประโยชน์จากการป้องกันการสูญหายของสินค้า และการมองเห็นสินค้า
“กลุ่มธุรกิจค้าปลีกกำลังขยายระบบการติดฉลาก RF EAS กันอย่างแข็งขัน เพื่อหาทางลดการสูญหายของสินค้า และปูพื้นฐานสำหรับ RFID ได้ในทันที เราได้เริ่มงานกับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกหลายรายเพื่อสร้างและพัฒนากลยุทธ์การรวมเทคโนโลยี EAS และ RFID ของพวกเขา” แปร์ เลอแวง ประธานฝ่าย Shrink Management Solutions and Merchandise Visibility ระดับโลกของเช็คพอยท์ ซิสเต็ม กล่าว “RFID ในฐานะ EAS นำเสนอขั้นตอนที่สำคัญในการนำ RFID เข้ามาในระบบซัพพลายเชนและการบริหารกิจการร้านค้า ด้วยเหตุนี้ เราจึงคาดหวังว่า กลุ่มธุรกิจค้าปลีกจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากระดับความพึงพอใจของลูกค้าที่มากขึ้นและเห็นได้ชัดขึ้น รวมทั้งยอดขายที่เพิ่มขึ้น
ท่านสามารถดูแนวทางปฏิบัติต่างๆโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่ http://www.epcglobalinc.org/standards/implementation_quidelines/
เกี่ยวกับเมโทร กรุ๊ป
เมโทร กรุ๊ป เป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจค้าปลีกระดับสากล โดยในปีพ.ศ. 2551 บริษัทสามารถทำยอดขายได้ถึง 6.8 หมื่นล้านยูโร ยูโร กรุ๊ป มีพนักงาน 300,000 ตำแหน่ง และมีร้านจำหน่ายสินค้าจากโรงงานกว่า 2,100 แห่งใน 32 ประเทศ ผลการดำเนินงานของเมโทร กรุ๊ป ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของแผนกขายที่ดำเนินการอย่างเป็นอิสระในตลาดแต่ละส่วน ได้แก่ Metro/Makro Cash & Carry ผู้นำกิจการค้าส่งในรูปแบบบริการตนเอง, Real ร้านค้าปลีกประเภทไฮเปอร์มาร์เก็ต, Media Markt and Saturn ผู้นำการค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรป และห้างสรรพสินค้า Galeria Kaufhof
เกี่ยวกับเช็คพอยท์ ซิสเต็มส์ อิงค์
เช็คพอยท์ ซิสเต็มส์ อิงค์ เป็นผู้นำด้านการจัดหาโซลูชั่นระบบป้องกันสินค้าสูญหาย การมองเห็นสินค้า การติดป้ายสินค้า เช็คพอยท์จะช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและซัพพลายเออร์ของบริษัทลดอัตราการสูญหายของสินค้า ปรับปรุงชั้นสินค้าที่มีอยู่ และจัดหาข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อให้การบริการที่เป็นเลิศ โซลูชั่นของเช็คพอยท์ได้รับการพัฒนาขึ้นจากความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี RF มาเป็นเวลากว่า 40 ปี ตลอดจนการนำเสนอบริการป้องกันสินค้าสูญหาย โซลูชั่นการติดป้ายสินค้าที่ครอบคลุม แอพพลิเคชั่น RFID ระดับชั้นนำของตลาด โซลูชั่นป้องกันการโจรกรรม และแพลทฟอร์มการบริหารข้อมูลผ่านเว็บ Check-Net ด้วยเหตุนี้ ลูกค้าของเช็คพอยท์จึงสามารถพึงพอใจได้กับยอดขายและกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงประสิทธิภาพซัพพลายเชน รวมถึงการพิมพ์ฉลากสินค้าตามความต้องการ และจากการจัดหาสภาพแวดล้อมด้านการค้าขายแบบเปิดที่ปลอดภัยซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์ในการช็อปปิ้งของผู้บริโภค เช็คพอยท์จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE: CKP)
เช็คพอยท์ดำเนินงานในตลาดหลักๆของโลก และว่าจ้างพนักงาน 3,900 รายทั่วโลก หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.checkpointsystems.com
เกี่ยวกับมาตรฐาน GS1 EPCglobal
มาตรฐาน GS1 EPCglobal เป็นกลุ่มมาตรฐานเชิงอุตสาหกรรมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถระบุวัตถุ การติดตามข้อมูล และแบ่งปันข้อมูลในกลุ่มพาร์ทเนอร์ทั่วทั้งซัพพลายเชน มาตรฐานเหล่านี้ได้รับการพัฒนาภายในกรอบการทำงานของอีพีซีโกลบอล อิงค์
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
นาตาลี ชาน
โทร: +852-2995-8350
อีเมล์: [email protected]
แหล่งข่าว เช็คพอยท์ ซิสเต็มส์ อิงค์
-- เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --