- ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มผันผวนและอาจปิดลบได้ หลังเศรษฐกิจของอังกฤษหดตัวลงเกินคาดในไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งทำลายความหวังถึงการสิ้นสุดลงของภาวะช่วงขาลง ทำให้คาดกันว่าธนาคารกลางอังกฤษจำเป็นต้องต่ออายุมาตรการซื้อสินทรัพย์ฉุกเฉินในเดือนหน้า ซึ่งอาจทำให้มีแรงขายทำกำไรยูโรตามมาด้วย
- กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Source : Bisnews (Daily)
Source : Bisnews (30 Min)
- ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD 30 นาทีเคลื่อนอยู่ในแดนลบทำให้ดูราคาเป็นลบ, MACDF 30 เคลื่อนตัวอยู่ใกล้ 0 ทำให้ดูว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, Fast Stochastic เคลื่อนตัวลง ทำให้ดูราคาเป็นลบ, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 39.766 ถือเป็นระดับ oversold อยู่เล็กน้อยทำให้ดูว่าราคามีโอกาสปรับตัวขึ้น, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็น Sideways, แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $1,047 - $1,064 ค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿33.41 - ฿33.46
- ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางเป็นขาขึ้น, RSI อยู่ที่ระดับ 54.914 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD เคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวกทว่าได้ตัดเส้น Signal จากด้านบนทำให้ดูราคาเป็นลบ, MACDF เคลื่อนตัวอยู่ใกล้ 0 ทำให้ดูว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, Fast-Stochastic กำลังเคลื่อนตัวลงและทำให้ราคามีโอกาสจะกลับตัวลง ทิศทางตลาดระยะกลางเป็นตลาด Bull โดยจะใช้แนวต้านที่ $1,070 และ $1,092 เป็นแนวต้านระยะกลางที่สำคัญ ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $1,020 และ $985 ตามลำดับ
ตาราง 3 : แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
Source: YLG’s estimations
พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 16,750 บาท) ซึ่งต่ำกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 16,790 หรือที่ $1,055.60) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีส่วนลดจากราคาในตลาดโลก อยู่ 40 บาท ขณะที่ราคาของ GFV09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 16,740 บาท จะมีส่วนลดจากราคาในตลาดโลก อยู่ราว 50 บาท ซึ่งมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะซื้อ (Long) GFV09 แล้ว ขาย (Short) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 50-40 = 10 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท จึงยังคงคุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) ในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
- ธนาคารกลางสหรัฐ - นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาชิคาโกกล่าวว่า เขาคาดว่าการดีดตัวขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐในปีหน้าจนอ่อนแอ และจะเผชิญอุปสรรคจากการจ้างงานที่ระดับต่ำ
- ธนาคารแห่งประเทศไทย - คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร(อาร์/พี) ระยะ 1 วัน ไว้ที่ 1.25% ซึ่งเป็นการคงดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่มองอัตราดอกเบี้ยขณะนี้ ยังเอื้อต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
- ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง +4 สต. มาที่ 33.44 บาทต่อดอลลาร์ จากที่ปิด 33.40 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า หลังตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มในทางอ่อนตัวลง + รมว.คลังแสดงความเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยของไทยไม่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นจนถึงปลายปีหน้าเป็นอย่างเร็วที่สุด ซึ่งสวนทางกับทัศนะของตลาดที่คาดถึงการปรับขึ้นในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2553 ขณะที่เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าลง +3 สต. มาที่ 33.47 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 33.41 บาทและ 33.38 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 33.46 บาทและ 33.48 บาท
ปัจจัยลบ
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — เมื่อคืนวันศุกร์
1. สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนก.ย. พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี โดยทะยานขึ้น +9.4% มาที่ 5.57 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2007 และเพิ่มขึ้นจาก 5.10 ล้านยูนิตในเดือนส.ค. โดยก่อนหน้านี้ คาดว่ายอดขายบ้านมือสองจะอยู่ที่ 5.35 ล้านยูนิตในเดือนก.ย.
- ผลประกอบการไตรมาส 3/09 ของสหรัฐ — เบอร์ลิงตัน นอร์เธิร์น ซานตา เฟ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทสร้างทางรถไฟใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐ เผยผลประกอบการรายไตรมาสทรุดตัวลง 30% ขณะที่ไมโครซอฟท์ เผยผลประกอบการดีเกินคาด
- ภาวะเศรษฐกิจอังกฤษ — เศรษฐกิจอังกฤษ (GDP) หดตัวลง -0.4% ต่อไตรมาสในช่วงไตรมาสเดือนก.ค.-ก.ย. ซึ่งเท่ากับว่าเศรษฐกิจหดตัวลง 6 ไตรมาสติดต่อกัน และถือเป็นการหดตัวที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกตัวเลขนี้ในปี 1955 และส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์
- ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น -$0.0023 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4999 จากที่ปิด $1.5022 เมื่อวันก่อนหน้า หลังจากมีการเปิดเผยรายงานแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจอังกฤษยังคงอยู่ในภาวะถดถอย ซึ่งสร้างความผิดหวังต่อนักลงทุนที่คาดว่าอังกฤษจะกลับมามีการเติบโตเป็นบวกและทำให้มีการคาดกันว่าธนาคารกลางอังกฤษจำเป็นต้องต่ออายุมาตรการซื้อสินทรัพย์ฉุกเฉินในเดือนหน้า ขณะที่เช้านี้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีกเล็กน้อย -$0.0012 มาที่ $1.4987
- ราคาน้ำมัน — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ธ.ค. ร่วงลง -$0.69 มาปิดที่ $80.50 ต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องความล่าช้าในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันที่อ่อนแอขณะที่สต็อกน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น หลังจากราคาน้ำมันขึ้นไปแตะจุดสูงสุดประจำปี 2009 ในสัปดาห์นี้ + ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน พ.ย. อ่อนลงอีก -$0.80 มาอยู่ที่ $79.70 ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
- กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 23 ต.ค.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,108.09 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.78 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 35.63 ล้านออนซ์
ปฏิทินการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
Source : Bloomberg
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com