นางพัชรศิริ เกียรติกำจาย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารความเสี่ยงและกำกับ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงผลการจัดทำดัชนีธุรกิจกรุงไทย หรือ Krung Thai Business Index (KTBI) ซึ่งเป็นดัชนีความเชื่อมั่นของนักธุรกิจทั่วประเทศว่า ดัชนี KTBI ประจำไตรมาสที่ 3 ที่ธนาคารได้ดำเนินการสำรวจในช่วงเดือนกันยายน 2552 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 โดยปรับขึ้นจากระดับ 49.63 ในไตรมาสก่อนเป็น 52.31 ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าปกติ (50) เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2551 และเป็นค่าดัชนีที่สูงที่สุดในรอบ 4 ปีครึ่ง นับจากไตรมาสที่ 2 ปี 2548
ดัชนีดังกล่าวสะท้อนว่า นักธุรกิจส่วนใหญ่เริ่มมั่นใจการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจ โดยความเชื่อมั่นที่นักธุรกิจมีต่อองค์ประกอบของดัชนี 4 ใน 5 ด้านดีขึ้น ได้แก่ เศรษฐกิจโดยรวม ตลาด การผลิตและการลงทุน และด้านการเงิน สำหรับความเชื่อมั่นด้านต้นทุนการผลิต ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน เนื่องจากความกังวลในเรื่องต้นทุนวัตถุดิบและค่าพลังงาน และมีความกังวลมากขึ้นเรื่องต้นทุนดอกเบี้ยใน 3 เดือนข้างหน้า
นางพัชรศิริ เกียรติกำจาย เปิดเผยต่อไปว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นต่ออนาคตใน 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน และสูงกว่าระดับปกติต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 โดยอยู่ที่ระดับ 53.44 จากระดับ 50.56 ในไตรมาสก่อน และสูงกว่าดัชนีความเชื่อมั่นที่มีต่อภาวะปัจจุบันค่อนข้างมาก สะท้อนว่านักธุรกิจเชื่อมั่นว่าในไตรมาสสุดท้าย ภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจจะดีขึ้น หลังจากแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลเริ่มดำเนินโครงการและเบิกจ่ายงบประมาณในไตรมาสที่ 4
อย่างไรก็ตาม ในการสำรวจครั้งต่อไปในไตรมาสที่ 4 จะมีความเสี่ยงสำคัญที่อาจกระทบความเชื่อมั่นของนักธุรกิจ คือ ข้อปฏิบัติในการดำเนินโครงการอุตสาหกรรมที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หลังจากศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ระงับการดำเนินโครงการ 76 โครงการในพื้นที่มาบตาพุดชั่วคราว ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นทำสถิติใหม่ในรอบปีในเดือนตุลาคม รวมทั้งเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งแม้จะเป็นประเด็นเดิมแต่ยังสร้างความกังวลอยู่
ทั้งนี้ ธนาคารได้จัดทำดัชนี KTBI โดยการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าสินเชื่อธุรกิจของธนาคาร จากทั่วประเทศ กว่า 6,000 ราย เป็นประจำทุกไตรมาส มาตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2547 เพื่อติดตามระดับความเชื่อมั่นของนักธุรกิจทุกประเภท ทุกขนาด และทุกภูมิภาค โดยผลการสำรวจจะแสดงถึงแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจและภาวะธุรกิจในระยะสั้น
ฝ่ายสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์
โทร. 0-2208-4174-7