นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าภายหลังจากที่กรมสรรพสามิตได้ดำเนินการแก้ไขและออกประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง หลักเกณฑ์ และเงื่อนไข การยกเว้นภาษีสรรพสามิตให้แก่สถานบริการประเภทอาบน้ำหรืออบตัว และนวดในสถานบริการเสริมความงามหรือเพื่อสุขภาพ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา โดยมีผลบังคับใช้ทันที ส่งผลให้ผู้ประกอบกิจการสปาซึ่งเป็นสถานบริการที่ได้รับใบรับรองมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วย “การกำหนดสถานที่เพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมสวย มาตรฐานของสถานที่ การบริการ ผู้ให้บริการ หลักเกณฑ์ และวิธีการตรวจสอบเพื่อการรับรองให้เป็นไปตามมาตรฐาน สำหรับสถานที่เพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมสวย ตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509” หรือที่ประกาศดังกล่าวถือว่ามีมาตรฐานได้รับการยกเว้นภาษีจากกรมสรรพสามิตสำหรับรายรับของการให้บริการอาบน้ำหรืออบตัว และนวดโดยมีผู้ให้บริการในตลอดระยะเวลาที่ได้รับใบรับรองมาตรฐานฯ โดยผู้ประกอบการธุรกิจสปาที่อยู่ในข่ายได้รับยกเว้นภาษีตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว มีทั้งผู้ประกอบกิจการสปาในโรงแรมและตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศ
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าวต่อว่าในปีงบประมาณ 2552 มีธุรกิจสปาที่จดทะเบียนเป็นสถานบริการประเภทอาบน้ำหรืออบตัว และนวดในสถานบริการเสริมความงาม หรือเพื่อสุขภาพกับกรมสรรพสามิต จำนวน 420 ราย โดยเป็นธุรกิจสปาที่จดทะเบียนกับกรมสรรพสามิตและได้รับใบรับรองมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 150 ราย สำหรับรายได้ภาษีที่กรมสรรพสามิตจัดเก็บได้เฉพาะธุรกิจสปา จำนวน 41.45 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้รับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข ก็จะต้องมีหน้าที่เสียภาษี ไปจนกว่าจะได้รับหนังสือรับรองมาตรฐาน ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินยื่นขอใบรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุขโดยด่วน เนื่องจากจะได้รับสิทธิการยกเว้นภาษีตั้งแต่วันที่ได้รับรองมาตรฐาน สำหรับสถานประกอบการในเขตกรุงเทพฯ สามารถยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานส่งเสริมธุรกิจบริการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ในเขตต่างจังหวัด สามารถยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด เมื่อผู้ประกอบการได้หนังสือรับรองมาตรฐานแล้ว ให้แจ้งสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ เพื่อทราบถึงสิทธิได้รับการยกเว้นภาษีตามประกาศกรมสรรพสามิตฉบับดังกล่าว โดยผู้ประกอบการสามารถดูรายละเอียดประกาศกรมสรรพสามิตฯ รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีจากสถานบริการประเภทอาบน้ำหรืออบตัว และนวดได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพสามิต www.excise.go.th
การยกเว้นภาษีดังกล่าวนอกจากจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการสปาให้มีความสามารถทางการแข่งขันในเวทีโลก และส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการให้บริการ สปาแล้ว ยังช่วยให้แนวทางในการพิจารณายกเว้นภาษีให้แก่สถานบริการประเภทอาบน้ำหรืออบตัว และนวดในสถานบริการเสริมความงาม หรือเพื่อสุขภาพมีความชัดเจนและง่ายต่อการปฏิบัติมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นการส่งเสริมบริการเพื่อสุขภาพที่มิได้เป็นบริการที่มีผลกระทบต่อศีลธรรมของประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
กรมสรรพสามิต
โทร/โทรสาร 0 2241 4778