คุณมาลินี กิตะพาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตามแนวคิด “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” (Creative Economy) สสปน.จึงได้วางนโยบายเชิงรุกนำทีมกลุ่มพันธมิตร 5 องค์กรด้านการจัดประชุมและท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชนของประเทศไทย คัดเลือกและเฟ้นหาสุดยอดผู้จัดงานธุรกิจสร้างสรรค์มืออาชีพจากทั่วประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันประชันฝีมือเพื่อนำเสนอผลงานความคิดการจัดงานธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ (Creative Business Event) สู่เวทีโลก ในงานการประกวด “รางวัลการจัดงานธุรกิจเชิงสร้างสรรค์” หรือ Thailand Creative Event Awards (TCEA) ซึ่งเป็นรางวัลระดับชาติที่ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและจะจัดขึ้นเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี
“การจัดงานครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญที่จะส่งเสริมและผลักดันอุตสาหกรรมการจัดงานธุรกิจของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และยังเป็นการสร้างการรับรู้ให้ทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพความเป็นมืออาชีพของผู้จัดงานธุรกิจไทยในด้านการจัดงานธุรกิจเชิงสร้างสรรค์และเชิงคุณภาพสู่เวทีโลก ทั้งนี้เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าองค์กรจากทั่วโลกซึ่งจัดเป็นกลุ่มที่กำลังซื้อสูงและต่อเนื่อง และมีสัดส่วนกว่า 50 % ของตลาดไมซ์ให้เข้ามาจัดงานธุรกิจ (Business Events) ในประเทศไทย เพราะขณะนี้ไทยมีจุดขายที่ชัดเจนในการเป็นผู้จัดงานธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ (Creative Event) หากแต่ยังไม่เป็นที่รับรู้อย่างเพียงพอและกว้างขวาง” คุณมาลินี กล่าว พร้อมเปิดเผยว่า
ผลจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว จึงส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การประชุม และนิทรรศการนานาชาติ หรือธุรกิจไมซ์ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้เริ่มมีอนาคตที่สดใสขึ้น สสปน. จึงได้ตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 2 ปี การจัดงานธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ของไทยจะสามารถดึงดูดให้นักเดินทางกลุ่มไมซ์ในตลาดท่องเที่ยวและการประชุมเพื่อเป็นรางวัล (Meeting & Incentive) จะเพิ่มยอดใช้จ่ายในประเทศไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากเดิมมีการใช้จ่าย 12,500 บาทต่อวัน เป็น 15,000 บาทต่อวัน ซึ่งคาดว่าจะช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยในภาพรวมให้กลับมาเติบโตขึ้นได้ตามเป้า
คุณมาลินี กล่าวว่า การจัดการประกวด TCEA ในครั้งนี้จะเป็นเวทีที่เปิดกว้างให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจการจัดงานประชุม งานสัมมนา งานอีเวนท์ ทั่วประเทศ ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ได้นำเสนอผลงานการจัดงานเชิงสร้างสรรค์ที่จัดขึ้นในประเทศไทย โดยผลงานที่ส่งเข้าประกวดจะต้องใช้ทรัพยากรที่หาได้ในประเทศไทย มาปรับใช้เป็นจุดขายเฉพาะตัว (Unique Selling Point) ซึ่งสามารถสร้างการจดจำได้ยาวนาน
โครงการ “การประกวดการจัดงานธุรกิจเชิงสร้างสรรค์แห่งประเทศไทย” หรือ TCEA เป็นหนึ่งในแผนการดำเนินงานภายใต้ “คณะกรรมการที่ปรึกษาสำหรับการจัดงานธุรกิจเชิงสร้างสรรค์” หรือ Creative Event Advisory Panel (CEAP) โดยการนำของ สสปน.และกลุ่มพันธมิตรทั้ง 5 องค์กรด้านการจัดประชุมและท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชนของประเทศไทย ประกอบด้วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TCT) สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติไทย (TICA) สมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน (EMA) สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) และองค์กรที่ปรึกษาโดยบริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อคัดเลือกผลงานความคิดสร้างสรรค์มาใช้ในการจัดงาน และยกระดับการจัดงานธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ไทยสู่เวทีโลก โดยผู้ชนะและผู้ได้รับการเสนอชื่อจะมีโอกาสได้รับเลือกให้นำเสนอผลงานเพื่อแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศในเวทีระดับโลกต่อไป
คุณมาลินี เปิดเผยด้วยว่า คุณสมบัติสำคัญของผู้ที่ส่งผลงานเข้าประกวดนั้นเปิดกว้างทั้งบริษัทสัญชาติไทย และบริษัทต่างชาติที่ใช้บริการจากบริษัทในประเทศไทย โดยผลงานที่ส่งเข้าประกวดจะต้องมีอายุไม่เกิน 5 ปี จนถึงวันประกวด และได้รับการยินยอมจากลูกค้าหรือเจ้าของงาน ทั้งนี้ผลงานที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นงานที่จัดขึ้นจริง มีความคิดสร้างสรรค์ แสดงให้เห็นถึงการจัดกิจกรรมธุรกิจอย่างสร้างสรรค์ โดยคณะกรรมการฯ จะพิจารณาจากความคิดแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร (Originality) มีนวัตกรรมใหม่ ๆ (Innovation) หรือมีความคิดนอกกรอบ (Out of the Box) การปรับใช้ทรัพยากรในประเทศ ตลอดจนคำนึงถึงการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ผลงานที่นำเสนอจะต้องเป็นกิจกรรมที่เน้นให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคม อีกทั้งยังต้องตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามอีกด้วย
ผู้สนใจสามารถส่งใบสมัครและผลงานการประกวดมาได้โดยตรงกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ สสปน. ที่เว็บไซด์ http://www.tceb.or.th/tcea โดยสามารถเสนอผลงานเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ สสปน.จะเปิดรับใบสมัครและผลงานการประกวดตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2552 - 31 มกราคม 2553 โดยจะตัดสินระหว่างวันที่ 8 — 12 กุมภาพันธ์ 2553 และประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 พร้อมมอบรางวัลอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2553