กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--124 คอมมูนิเคชั่นส์
นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังจากที่เข้าร่วมประชุมกับสภากรรมการบริษัทไทยเดินเรือทะเล จำกัด (บทด.) ชุดใหม่ ได้นำผลการศึกษาจากคณะที่ปรึกษาเป็นแนวทางในการดำเนินงานของบทด. ซึ่งผลการศึกษาได้เสนอให้ปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อเพิ่มปริมาณเรือให้กับประเทศไทย โดยการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่เป็นบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มเจ้าของเรือไทยที่มีประสบการณ์ และมีความสามารถ ซึ่งโครงสร้างบริษัทใหม่นั้น จะมีกลุ่มเจ้าของเรือถือหุ้นร่วมกันกับบริษัทไทยเดินเรือทะเล
ทั้งนี้การลดบทบาทของบทด.จะทำให้แข่งขันได้ในตลาดเสรี โดยบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ จะไม่ขอสิทธิพิเศษใดๆเพิ่มเติม สำหรับธุรกิจและสิทธิประโยชน์ที่บทด.ดำเนินการอยู่นั้น จะส่งมอบให้กับบริษัทร่วมทุนใหม่เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ด้วยอัตราค่าขนส่งให้เป็นไปตามกลไกตลาด
นอกจากนั้น บทด. จะร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการในธุรกิจเดินเรือทะเลเพื่อขยายกองเรือทะเลและกองเรือแห่งชาติในที่สุด รวมถึงการดำเนินงานให้ครอบคลุมถึงส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพาณิชย์นาวี
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า บริษัทใหม่จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐเข้าใจในธุรกิจพาณิชย์นาวี ที่มีการแข่งขันในตลาดโลกอย่างเสรี และเป็นผู้นำในการขยายกองเรือของชาติ โดยรวบรวมความรู้และประสบการณ์ของธุรกิจเรือชนิดต่างๆเข้าด้วยกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐในการที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการภาคเอกชน
สำหรับบุคลากรของบทด. จะมีการคัดเลือกให้เข้าทำงานในบริษัทนี้อย่างเหมาะสมและเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีที่มีก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนปัญหาเกี่ยวกับการทุจริตและการปฏิบัติมิชอบ โดยขณะนี้อยู่ในกระบวนการ ขั้นตอนตามระเบียบและข้อกฎหมาย
รายชื่อคณะกรรมการ บริษัทไทยเดินเรือทะเล จำกัด
พลเรือโทนิพนธ์ จักษุดุล ประธานกรรมการ
นายถวัลรัฐ อ่อนศิระ รองประธาน
นายสุพจน์ คำภีระ กรรมการ
นายสมภพ บัณฑรวิพากษ์ กรรมการ
ดร.รุธิร์ พนมยงค์ กรรมการ
นายเมธี เกียรติก้องขจร กรรมการ
นายอนันต์ ตังทัตสวัสดิ์ กรรมการ
นายสุวภัทร สุวรรณกิจบริหาร กรรมการและเลขานุการ--จบ--
- ๑๘ พ.ย. จินา โอสถศิลป์ CEO จาก GDH รับรางวัล 'CEO of the year in International Film Achievement' จากบางกอกโพสต์
- ๑๘ พ.ย. ภูมิธรรมเปิดตัวคลังความรู้ "พาณิชย์คิดค้าอย่างยั่งยืน"มุ่งพาผู้ประกอบการไทยปรับตัวรับมือกติกาการค้าโลกใหม่ สนับสนุนเป้าหมาย SDGs
- ๑๙ พ.ย. "ภูมิธรรม-นภินทร" ขึ้นรถบด ทำลายของกลางสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 1.2 ล้านชิ้น มูลค่ากว่า 325 ล้านบาท พร้อมผนึกกำลัง รัฐ-เอกชน ปกป้องผู้บริโภค สร้างความเชื่อมั่นประเทศคู่ค้าและนักลงทุนเต็มที่