สถาบันอาหารชี้ “สินค้าแปรรูป” โอกาสของอุตฯ อาหารไทย ในตลาดโลก

จันทร์ ๐๒ พฤศจิกายน ๒๐๐๙ ๐๙:๓๑
สถาบันอาหาร ระบุการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทยจากนี้ไป ต้องมุ่งเพิ่มสัดส่วนส่งออก “สินค้าแปรรูป” ให้เพิ่มสูงขึ้น เน้นส่งออกสินค้าปริมาณน้อย แต่มีรายได้เข้าประเทศมากขึ้น เลี่ยงการแข่งขันกับประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และมีต้นทุนแรงงานต่ำกว่าไทย ควบคู่การพัฒนาทักษะแรงงาน เทคโนโลยี และนวัตกรรม เป็นเครื่องมือพัฒนาสินค้าทั้งในแง่มูลค่าเพิ่ม และความหลากหลาย เพื่อขยายช่องทางการตลาดไปสู่ผู้บริโภคมากขึ้น ชู Food Safety และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นจุดแข็งทำให้ไทยอยู่เหนือคู่แข่ง

ดร.อมร งามมงคลรัตน์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เผยว่าในระยะ 7 — 8 ปีที่ผ่านมา การเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารไทยในเชิงปริมาณไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นมากนัก เนื่องจากอุตสาหกรรมอาหารเน้นหนักการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเข้มข้น ซึ่งปัจจุบันทรัพยากรธรรมชาติภายในประเทศร่อยหรอลงมาก หลายอุตสาหกรรมเริ่มเกิดปัญหาจากการพึ่งพิงวัตถุดิบจากภายนอกประเทศ การเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารส่วนใหญ่จึงเป็นผลมาจากการเพิ่มปัจจัยทุนและแรงงานเข้าสู่ระบบเป็นหลัก การเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ทุนและแรงงานยังไม่มีให้เห็นเป็นรูปธรรมมากนัก ขณะที่ทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารมีความผันผวนอยู่มาก เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่นำผลผลิตในภาคเกษตรกรรมมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร ซึ่งต้นทุนวัตถุดิบจากผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉลี่ยคิดเป็น 70-80% ของต้นทุนทั้งหมด (แตกต่างกันไปตามอุตสาหกรรม) โดยเฉพาะการผลิตสินค้าขั้นปฐมในกลุ่มเกษตรและอาหารแปรรูปขั้นต้น เนื่องจากสินค้าเหล่านี้กลายเป็นหนึ่งในระบบห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศไปแล้ว ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมาจนถึงเดือนมิถุนายน 2552 ประเทศไทยมีรายได้จากการส่งออกอาหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 ในรูปเงินบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 ในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมอาหารของไทยเติบโตได้ค่อนข้างสูงอย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวได้รวมปัจจัยทางด้านราคาเข้ามาไว้ด้วย จึงไม่ได้สะท้อนให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงของอุตสาหกรรมอาหารมากนัก

“หากโฟกัสไปที่เวทีการแข่งขันในอุตสาหกรรมอาหารโลกแล้ว ประเทศไทยจัดอยู่ในผู้เล่นที่อยู่ตรงกลาง ตามหลังประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ที่เข้มแข็งในเรื่องนวัตกรรมและ R&D ขณะที่ประเทศคู่แข่งที่ไล่หลังไทยมาติดๆ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย และเวียดนาม มีสินค้าส่งออกส่วนใหญ่ คือ สินค้าเกษตรและแปรรูปอย่างง่าย ส่วนสินค้าแปรรูปยังมีมาตรฐานและความปลอดภัยเป็นรองไทย และกลายเป็นช่องว่างที่แบ่งแยกอุตสาหกรรมอาหารของไทยกับประเทศเหล่านี้ออกจากกัน การพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารในระยะต่อไป จำเป็นต้องมุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนส่งออกสินค้าอาหารแปรรูปให้เพิ่มสูงขึ้น เพื่อเลี่ยงการแข่งขันกับประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และมีต้นทุนแรงงานต่ำ ซึ่งแนวทางดังกล่าวคงไม่เน้นการเพิ่มรายได้

เข้าประเทศจากการส่งออกสินค้าจำนวนมาก และต้องแลกมาด้วยการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ แต่ควรเน้นส่งออกสินค้าปริมาณน้อยแต่ให้มีรายได้เข้าประเทศมาก และกลไกในการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายดังกล่าวก็ต้องอาศัยการพัฒนาทักษะแรงงาน ยกระดับเทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อเป็นเครื่องมือพัฒนาสินค้า ทั้งในแง่มูลค่าเพิ่มและความหลากหลาย สามารถขยายช่องทางการตลาดไปสู่ผู้บริโภคมากขึ้น และสิ่งที่ต้องดำเนินการควบคู่กับไปคือ การยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าให้มีความปลอดภัย (Food Safety) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นจุดแข็งที่ทำให้ไทยอยู่เหนือคู่แข่งได้” ดร.อมร กล่าว

การส่งออกสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปมีการเปลี่ยนแปลงที่มีเสถียรภาพมากกว่ากลุ่มสินค้าเกษตรและอาหารแปรรูปขั้นต้น เนื่องจากเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพของไทยเพราะต้องอาศัยเทคโนโลยีในการแปรรูปรวมทั้งทักษะความชำนาญในการผลิต ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้ไทยได้เปรียบประเทศคู่แข่งอื่นๆ อีกหลายประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ส่งผลให้สินค้าอาหารแปรรูปของไทยมีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับจากตลดาดต่างประเทศ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๓๙ คัมมิ่นส์ ดีเคเอสเอช ร่วมจัดแสดงสินค้าเครื่องยนต์คัมมิ่นส์ รุ่น QSB6.7 สำหรับรถตัดอ้อย
๑๗:๑๒ ค็อกพิทรุกขยายสาขาต่อเนื่อง ปักหมุดสาขาใหม่ย่านถนนศรีจันทร์ ขอนแก่น มอบความสุขลูกค้าส่งท้ายปีด้วยโปรโมชันใหญ่สุดคุ้ม
๑๖:๐๐ ไอคอนสยาม ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐ เตรียมพร้อมกำลังพลปฏิบัติการด้านความปลอดภัยขั้นสุด ต้อนรับงานเคานต์ดาวน์
๑๕:๑๒ เซ็นทาราออกตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนเป็นครั้งแรก สอดรับการเติบโตในเอเชีย
๑๕:๑๐ ดีเดย์! 4 ศูนย์การค้าในเครือ เอ็ม บี เค เปิดโครงการ ข.ขวดรักษ์โลก แยกขวดช่วยน้อง สนองเป้า Net Zero บริหารจัดการขยะอย่างรู้คุณค่า 4
๑๕:๔๘ สจส. เร่งศึกษารูปแบบจัดการเดินเรือในคลอง-สนับสนุนเอกชนลงทุน-ใช้พลังงานสะอาด
๑๕:๐๓ D-Link ยืนยัน มุ่งสร้างความมั่นใจในการเชื่อมต่ออัจฉริยะและความปลอดภัยทางไซเบอร์
๑๕:๔๑ TBC จัดงาน Business Partner Award 2024 ครั้งแรกกับงานมอบรางวัลเกียรติคุณยกย่อง ให้กับพันธมิตรทางธุรกิจที่พร้อมเสริมสร้างห่วงโซ่คุณค่าที่ยั่งยืน
๑๕:๒๕ ต้นกล้าฟ้าใส จัด 3 เซ็ตเมนูพิเศษแบบ อร่อย.ดี ฟินคุ้ม เริ่มเพียง 149 บาท
๑๕:๑๔ สสว. ปลื้มกิจกรรมส่งท้าย Roadshow SME Academy On Tour ที่ จ.ยะลา มุ่งพัฒนาผู้ประกอบการ SME เสริมเกราะความรู้เพื่อธุรกิจเติบโต