เอ็มเอฟซีผู้นำนวัตกรรมการลงทุน เปิดตัวกองทุนไทยสร้างสรรค์ โดยมีสถาบันการเงินภาครัฐร่วมสนับสนุน สอดรับนโยบายรัฐส่งเสริมธุรกิจที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ก้าวสู่ตลาดโลก

จันทร์ ๐๙ พฤศจิกายน ๒๐๐๙ ๐๘:๒๗
บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดตัวกองทุนไทยสร้างสรรค์ (Thailand Creativity Fund) มูลค่า 800 ล้านบาท อายุโครงการ 7 ปี ดึงสถาบันการเงินภาครัฐร่วมสนับสนุนโครงการเน้นลงทุนโดยตรงในธุรกิจที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นปัจจัยทุนในการดำเนินธุรกิจให้สามารถก้าวไกลสู่ตลาดโลก สอดรับนโยบายรัฐที่ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้เป็นรูปธรรม

ดร.พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐที่ได้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็งที่ต้องการกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และส่งเสริมสนับสนุนธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น บลจ.เอ็มเอฟซี ในฐานะบริษัทจัดการลงทุนที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมการลงทุนใหม่ ๆ มาอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดตั้งกองทุนไทยสร้างสรรค์ (Thailand Creativity Fund) ขึ้น มีมูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท อายุโครงการ 7 ปี โดยในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 บริษัทได้ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือกองทุนไทยสร้างสรรค์ระหว่างเอ็มเอฟซีกับสถาบันต่างๆ ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (SIPA) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในการสนับสนุนธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้สามารถสร้างรายได้และขยายธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรมซึ่งจะมีผลสนับสนุนต่อเนื่องโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาว

กองทุนไทยสร้างสรรค์ (Thailand Creativity Fund) เป็นกองทุนที่มีนโยบายหลักในการลงทุนโดยตรง (Direct Investment) ในตราสารทุน ตราสารหนี้ หรือตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ของบริษัทที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นทุนในการดำเนินธุรกิจ การผลิตหรือการบริการ โดยกองทุนดังกล่าวจะช่วยสนับสนุน และเข้าไปช่วยขยายฐาน

ให้กับธุรกิจโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าให้มีศักยภาพและมีโอกาสเจริญเติบโตขึ้นในอนาคต รวมทั้งสามารถก้าวเข้าสู่การส่งออกและสร้างศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกได้ ซึ่งการเข้าไปร่วมลงทุนจะเป็นการลงทุนในธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานอยู่ก่อนแล้ว(Track Record) โดยลักษณะของการลงทุนจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ในช่วง 4 ปีแรกจะเป็นช่วงของการลงทุน และในช่วง 3 ปีหลังจะเป็นช่วงของการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุน ทั้งนี้ เมื่อครบอายุโครงการ 7 ปี ผู้ลงทุนสามารถลงมติเพื่อขอขยายระยะเวลาการลงทุนต่อไปได้อีก 2 ปี

ทั้งนี้ คุณสมบัติของบริษัทที่กองทุนไทยสร้างสรรค์สนใจที่จะเข้าร่วมลงทุน จะต้องเป็นธุรกิจที่มีการสร้างมูลค่าที่เกิดจากความคิดของบุคคลหรือหน่วยงาน ทักษะความชำนาญ และความสามารถพิเศษ ซึ่งก่อให้เกิดทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการสร้างความมั่งคั่งและสร้างงานให้เกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ กองทุนอยู่ในระหว่างการศึกษาและคัดเลือกบริษัทเป้าหมายที่มีความเหมาะสม เพื่อการเข้าร่วมลงทุน เช่น ธุรกิจซอฟท์แวร์หรือแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ธุรกิจแอนิเมชั่น การออกแบบ สินค้าแฟชั่น การพิมพ์หรือสื่อสิ่งพิมพ์ การกระจายเสียง อาหาร เป็นต้น

สำหรับเกณฑ์ในการคัดเลือกบริษัทที่กองทุนจะเข้าร่วมลงทุน ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์หรือบริการมีลักษณะเฉพาะหรือมีความโดดเด่น มีผลการดำเนินงานมาแล้วอย่างน้อยช่วงเวลาหนึ่งและมีแนวโน้มที่จะสามารถเติบโตได้สูงในอนาคต ทีมผู้บริหารมีความสามารถและมีประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจเป็นอย่างดี อีกทั้งมีความเต็มใจที่จะพัฒนาการบริหารจัดการให้เป็นมาตรฐานหรือมีระบบที่ดี รวมทั้งต้องการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เป็นสากล

โดยที่กองทุนไทยสร้างสรรค์จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจด้านการสนับสนุนเงินทุน เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เจริญเติบโตก้าวหน้า รวมทั้งช่วยพัฒนาและส่งเสริมให้ธุรกิจที่กองทุนเข้าร่วมลงทุนได้มีโอกาสเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในอนาคต

ดร.พิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนไทยสร้างสรรค์ นอกจากจะเป็นทางเลือกใหม่ของการลงทุนเพื่อผู้ลงทุนสถาบันแล้ว การจัดตั้งกองทุนไทยสร้างสรรค์ ยังมีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายภาครัฐที่ต้องการให้แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโต และสามารถแข่งขันกับนานาอารยประเทศได้ ซึ่งนโยบายการลงทุนของ บลจ.เอ็มเอฟซี นอกจากจะมุ่งเน้นในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนแล้ว ยังมีนโยบายจะสร้างประโยชน์และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนให้กับประเทศชาติเช่นเดียวกัน

ปัจจุบัน มูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 10-12 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือประมาณร้อยละ 14-17 ของรายได้ประชาชาติ ในขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าสร้างสรรค์ของไทยมีส่วนแบ่งในตลาดโลกประมาณร้อยละ 1.3 ในปี 2548 จัดอยู่ในลำดับที่ 17 ของโลก และมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 5 ต่อปี ระหว่างปี 2543-2548 (ข้อมูลจาก UNCTAD)

อนึ่ง บริษัทที่สนใจจะขอรับการสนับสนุนการลงทุนจากกองทุนไทยสร้างสรรค์ สามารถติดต่อสอบถามมายัง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ฝ่าย Private Equity & Financial Advisory เลขที่ 199 อาคารคอลัมน์ทาวเวอร์ ชั้นจี และ ชั้น 21 - 23 ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2649-2435 โทรสาร 0-2649-2431 www.mfcfund.com

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:

คุณสุทรรศิกา คูรัตน์, คุณสุวรรณา ชีวนันทชัย คุณวงจันทร์ ตั้งทรงศักดิ์, คุณนิธิดา อัศวนิพนธ์

บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เวิรฟ

โทร.0-2649-2230, 0-2649-2232 โทร. 0-2204-8221, 0-2204-8226 โทรสาร 0-2259-9246

นิธิดา อัศวนิพนธ์ (นิด้า)

PR Executive

Verve Public Relations Consultancy

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO