คต.จัดทีมพบเกษตรกร รับมือการเปิดตลาดสินค้าเกษตรภายใต้ AFTA

ศุกร์ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๐๐๙ ๑๖:๔๓
กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) ผนึกกำลังภาครัฐ เอกชน จัดทีมลงพื้นที่ชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องทุกภูมิภาคทั่วประเทศเพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางรองรับการยกเลิกโควตานำเข้าและลดภาษี สำหรับสินค้าเกษตรภายใต้พันธกรณี AFTA

นางอัญชนา วิทยาธรรมธัช รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ประเทศไทยในฐานะเป็นสมาชิก AFTA (เขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ AFTA : ASEAN Free Trade Area) มีพันธกรณีจะต้องลดภาษีและยกเลิกมาตรการโควตาภาษี (Tariff Rate Quota:TRQ) สินค้าเกษตร ซึ่งได้ดำเนินการลดภาษีมาตั้งแต่ปี 2536 และจะต้องยกเลิกโควตานำเข้าและลดภาษี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ซึ่งการปฏิบัติตามพันธกรณีที่ผูกพันไว้ถือเป็นสิ่งสำคัญและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่เจรจาของไทยรวมถึงเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือของไทยในภูมิภาคอาเซียน

นางอัญชนา กล่าวเพิ่มเติมว่า สินค้าเกษตรที่จะต้องลดภาษี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 จำนวน 7 รายการได้แก่ เมล็ดถั่วเหลือง ชา กาแฟสำเร็จรูป น้ำนมดิบและนมปรุงแต่ง นมผงขาดมันเนย มะพร้าวและน้ำมันมะพร้าว ซึ่งการเปิดตลาดฯดังกล่าวอาจทำให้มีการนำเข้าเพิ่มมากขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการผลิตและการค้า ดังนั้น เพื่อให้ประเทศไทยได้ประโยชน์จากการเปิดตลาดสินค้าเกษตรตามพันธกรณีและเกิดผลกระทบน้อยที่สุด หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันหารือเพื่อกำหนดมาตรการและแนวทางรองรับ อาทิ การกำหนดให้เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตนำเข้า กำหนดปริมาณสารพิษตกค้าง ปลอด GMOs มีแหล่งกำเนิดสินค้า มีมาตรการ SPS ที่เข้มงวด นอกจากนี้ การนำเข้าสินค้าเกษตรดังกล่าวจะต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับนโยบายสินค้าต่าง ๆ จึงมั่นใจได้ว่าการนำเข้าจะเป็นไปโดยมีผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าภายในประเทศน้อยที่สุด

อย่างไรก็ตามเพื่อให้การบริหารจัดการนำเข้ามีความสมบูรณ์ โปร่งใส กรมฯ จึงได้จัดเวทีสาธารณะชี้แจงข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นจากเกษตร ผู้ประกอบการ และผู้มีส่วนได้เสีย ในพื้นที่เป้าหมาย 5 แห่ง ดังนี้

- 13 พฤศจิกายน 2552 ณ จังหวัดนครราชสีมา สินค้าน้ำนมดิบ นมพร้อมดื่ม นมผงขาดมันเนย

- 23 พฤศจิกายน 2552 ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี สินค้ากาแฟ มะพร้าว น้ำมันปาล์ม

- 11 ธันวาคม 2552 ณ จังหวัดอุดรธานี สินค้าข้าวโพด และเมล็ดถั่วเหลือง

- 14 ธันวาคม 2552 ณ จังหวัดเพชรบูรณ์ สินค้าข้าวโพด และเมล็ดถั่วเหลือง

- 18 ธันวาคม 2552 ณ จังหวัดเชียงใหม่ สินค้าเมล็ดถั่วเหลือง ข้าวโพด ชาและกาแฟ

“ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้จากการเปิดเวทีสาธารณะ ทั้ง 5 ครั้ง จะนำมาประมวลใช้ประกอบการจัดทำแนวทางการปฏิบัติการเปิดตลาดสินค้าเกษตรและออกกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการให้มากที่สุด อย่างไรก็ตามประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบจากการเปิดตลาดสินค้าเกษตรบ้าง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับผลประโยชน์ที่จะได้รับมีมากมายมหาศาล นอกจากการขยายตลาดผู้ซื้อรายใหญ่ ๆในอาเซียนแล้ว ยังจะได้รับประโยชน์ในการเปิดตลาดการค้าและการลงทุนอื่นจาก AFTA อีกมาก ” นางอัญชนากล่าวในตอนท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ