กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
บลูสโคป สตีล เผยผลประกอบการกลางปีงบประมาณสูงเกินคาด กำไรสุทธิพุ่ง 485 ล้านดอลล่าร์ออสเตรเลีย ชี้ราคาเหล็กรีดร้อนในตลาดโลกสูงบวกกำลังการผลิตเพิ่มเป็นปัจจัยหนุน มองอนาคตตลาดเอเชียสดใส หวังทำรายได้ลบสถิติต่อครึ่งปีหน้า
บลูสโคป สตีล บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กและโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูปเพื่อการก่อสร้างชั้นนำ และผู้ถือหุ้นใหญ่ในบลูสโคป สตีล (ประเทศไทย) จำกัด และบลูสโคป ไลสาจท์ (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 2547 โดยบริษัทแจ้งว่ามีผลกำไรสุทธิหลังหักภาษี (NPAT) รวมทั้งสิ้น 485 ล้านดอลล่าร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 14,500 ล้านบาท จากยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นและเหล็กรีดร้อนในตลาดทั่วโลก โดยรายได้สุทธิดังกล่าว นับว่าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 114 เมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2546
ผลประกอบการที่เกินความคาดหมายดังกล่าว เป็นผลมาจากยอดจำหน่ายเหล็กรีดร้อนของนิวซีแลนด์สตีลซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ผนวกกับผลกำไรจากการถือหุ้น 50 เปอร์เซ็นต์ในบริษัทนอร์ธสตาร์ บลูสโคป สตีล ทำให้รายได้ทั้งหมดก่อนหักภาษีเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 49 หรือ 3,890 ล้านดอลล่าร์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2547 ทางบริษัทยังได้ขยายกิจการ โดยจัดตั้งโรงงานผลิตเหล็กเคลือบสีคัลเลอร์บอนด์(COLORBOND) ที่เวสเทิร์น ซิดนี่ย์_โรงงานรีดลอนขึ้นรูป (Rollforming) และโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูปเพื่อการก่อสร้าง (PEB) ที่อินเดียและในจีนอีกด้วย
นายเคอร์บี้ อดัมส์ กรรมการผู้จัดการและซีอีโอของบลูสโคปสตีลกล่าวว่า “โดยรวมแล้ว ผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจอย่างมากกับทุกตลาดที่เราได้ดำเนินการอยู่ทั่วโลก ซึ่งในครึ่งหลังของปี 47 ราคาเหล็กแท่งแบนและเหล็กรีดร้อนได้เพิ่มสูงขึ้นในตลาดโลก และตลาดในประเทศของออสเตรเลียอย่างมาก ผนวกกับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของโรงงานที่พอร์ท เคมบลา และรายได้แบบทำลายสถิติ 104 ล้านดอลล่าร์ออสเตรเลียของนอร์ธสตาร์ บลูสโคป สตีล ยิ่งทำให้ผลกำไรของเหล็กรีดร้อนเพิ่มสูงยิ่งขึ้น เรายังพอใจอย่างมากกับยอดจำหน่ายของนิวซีแลนด์สตีล ซึ่งเป็นผลมาจากการทุ่มเทของทีมงานเป็นเวลาหลายปี”
“ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 48 เป็นต้นไป โครงการขยายกำลังการผลิตต่างๆในภูมิภาคเอเชีย ที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้จะเริ่มเปิดดำเนินการ ซึ่งสอดรับกับความต้องการผลิตภัณฑ์เหล็กที่เพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย และคาดว่าจะช่วยเพิ่มผลกำไรในปีงบประมาณหน้าได้อีกมาก”
ในฐานะที่บลูสโคป สตีล เป็นผู้ลงทุนจากออสเตรเลียรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าเมื่อสายการผลิตในส่วนของการเคลือบโลหะแห่งที่สอง ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด แล้วเสร็จประมาณกลางปี 2548 จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าภายในประเทศ ทั้งในเรื่องอาคาร การก่อสร้าง และอุตสาหกรรมการผลิตด้วยเหล็กเคลือบคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ZINCALUME? นอกจากนั้นยังอยู่ในระหว่างการดำเนินงานก่อสร้างโรงงานเหล็กเคลือบโลหะ และเหล็กเคลือบสีแห่งใหม่ในประเทศเวียดนามและในประเทศจีน เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศนั้นๆ ด้วย
“โดยภาพรวมแล้วกิจการของบลูสโคปสตีลยังคงมีทิศทางที่ดี โดยความต้องการผลิตภัณฑ์เหล็กในตลาดโลกยังคงสูงและราคาของสินค้ายังคงอยู่ในเกณฑ์ดีมาก กำลังการผลิตของบริษัทยังคงเดินหน้าได้อย่างเต็มที่ แม้จะมีการซ่อมบำรุงเป็นครั้งคราวก็ตาม ในช่วงครึ่งปีต่อไป เราคาดว่าทางบริษัทอาจยังต้องเผชิญกับปัญหาของสหภาพแรงงานที่โรงงานเวสเทิร์นพอร์ท ปัญหาการปรับปรุงธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์ในออสเตรเลีย ซึ่งอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายถึง 50 ล้านดอลล่าร์ออสเตรเลียหลังหักภาษี ปัญหาค่าเงินดอลล่าร์ออสเตรเลียที่แข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์สหรัฐและเงินสกุลเอเชีย รวมทั้งค่าวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม บลูสโคปสตีลยังคาดว่าจะสามารถทำผลกำไรสุทธิ (NPAT) ได้มากเท่ากับช่วงครึ่งปีก่อนในปีงบประมาณ 2548 นี้” ซีอีโอ ของบลูสโคปสตีลกล่าว
เกี่ยวกับบริษัทบลูสโคป สตีล จำกัด
บลูสโคป สตีล เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กชั้นนำระดับโลกซึ่งดำเนินธุรกิจในเอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอเมริกาเหนือ โดยเป็นผู้จำหน่ายแผ่นเหล็กในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา โดยมีโรงงานผลิตเหล็กเคลือบโลหะ และเหล็กเคลือบสี ตั้งอยู่ในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย และกำลังก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่เวียดนามและจีน โดยบริษัทมีโรงงานรีดลอนขึ้นรูป 50 แห่งใน 13 ประเทศ ซึ่งมีคุณภาพการผลิตที่เหนือกว่ามาตรฐานของผู้ผลิตรายอื่นๆ และเป็นเจ้าตลาดเหล็กโครงสร้างสำเร็จรูปในจีน และอเมริกาเหนือ
ธุรกิจของ บลูสโคป สตีล ในประเทศไทย ได้แก่ บลูสโคป สตีล (ประเทศไทย) จำกัด และ บลูสโคป ไลสาจท์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กคุณภาพระดับโลก โดยบลูสโคป ไลสาจท์ ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี 2531 โดยผลิตวัสดุก่อสร้างและอาคารหลายประเภท ส่วนบลูสโคป สตีล (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 โดยการร่วมทุนระหว่าง บลูสโคป สตีล ออสเตรเลียและบริษัทล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) มีโรงงานผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมตะวันออก มาบตาพุด เพื่อผลิต ผลิตภัณฑ์เหล็ก อาทิ เหล็กเคลือบ ZINCALUME และเหล็กเคลือบสี Clean COLORBONDโ ซึ่งเป็นเหล็กสำหรับการก่อสร้าง และอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบลูสโคป สตีลได้ที่ www.bluescopesteel.com หรือ www.bluescopesteelasia.com หรือ www.bluescopesteel.co.th
สอบถามข้อมูลข่าวเพิ่มเติมได้ที่
จรินธร ธนาศิลปกุล หรือรุ่งนภา ชาญวิเศษ
บริษัท สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
โทร. 02 653-2717-9 แฟกซ์ 02 653-2725
อีเมล์ [email protected] , [email protected]จบ--
- ธ.ค. ๒๕๖๗ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย รวมใจฝ่าวิกฤต COVID-19 บริจาคโลหิต พร้อมมอบหน้ากาก Face Shield แก่สภากาชาดไทย
- ธ.ค. ๔๓๘๕ เพราะกลิ่นอับไม่ใช่เรื่องเล่นๆ Beko เผยสาเหตุและปัญหาจากกลิ่นอับบนเสื้อผ้าพร้อมเคล็ดลับเพื่อสุขอนามัยที่ดี
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ผลการศึกษาของวีซ่า เผยวิธีการชำระเงินคอนแทคเลสใหม่ล่าสุด ด้วยการ 'แตะเพื่อจ่าย’ ผ่านสมาร์ทโฟน ในเอเชียแปซิฟิก