โพลแฉจยย.ไม่กลัวตายพบย้อนศรเกือบ80%-สวมกันน๊อก46% ศวปถ.ชี้ประชาชนเสนอเพิ่มโทษเมาแล้วขับปรับหนักและกักขัง

จันทร์ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๐๐๙ ๑๕:๔๒
นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการโครงการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน(ศวปถ.) มูลนิธิสารธารณสุขแห่งชาติ(มสช.) กล่าวถึงการทำงานร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)ในการรณรงค์ป้องกันความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินอันเกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนนว่า ในช่วงปลายปีซึ่งจะมีการเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเพิ่มขึ้นในช่วงนี้จึงจำเป็นต้องมีการรณรงค์สร้างวินัยจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุเพราะจากสถิติข้อมูลของทุกปีสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตมักจะมาจากเรื่องเดิมๆ 3 เรื่อง คือ 1.คนไม่เคารพกฎหมายและวินัยจราจร 2. สภาพของตัวรถ 3. สภาพทางกายภาพของถนน เช่น การไม่สวมหมวกกันน๊อก การขับรถเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด เมาแล้วขับ ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร

ผู้จัดการโครงการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน กล่าวต่อว่าเมื่อเร็วๆนี้ได้ร่วมมือกับสวนดุสิตโพล ในการสำรวจความคิดเห็นของคนทั้งประเทศเรื่องการเคารพวินัยจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุพบประเด็นที่น่าสนใจว่า จากกลุ่มตัวอย่าง 1,172 คนทั่วทุกภาคของประเทศเคยประสบอุบัติเหตุจากการเดินทาง ร้อยละ 58.73 สาเหตุอันดับ 1 มาจากขับรถโดยประมาท ร้อยละ 38.82 ตามมาด้วยฝนตกและทัศนะวิสัยไม่ดี ร้อยละ 13.24 และอันดับ 3 คือ การขับรถผิดกฎจราจรร้อยละ 11.76 โดยพบว่าพฤติกรรมไม่เคารพกฎหมายและกฎจราจร มีหลายรูปแบบ เช่น มีคนสวมหมวกกันน๊อก ทุกครั้งที่ขับขี่รถจักรยานยนต์แค่ร้อยละ 46.67 ทั้งๆที่ควรจะมากกว่านี้ หรือการขับขี่รถย้อนศรปรากฏว่าประชาชนเห็นการขับขี่ย้อนศรเป็นประจำถึงร้อยละ 78.40 นอกจากนี้ยังมีการฝ่าฝืนกฎหมายในเรื่องการขับรถเร็วเกินกว่ากำหนดซึ่งอาจจะมาจากสาเหตุทางกายภาพของถนนที่มีเลนมากขึ้นและอาจเข้าใจผิดในเรื่องอัตราความเร็วของรถเพราะผู้ที่ตอบแบบสอบถามประมาณร้อยละ 34.40 เข้าใจว่าต้องขับขี่ความเร็วเกิน 120 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงขึ้นไปจึงถือว่าเป็นอัตราที่ไม่ปลอดภัย

“ประชาชนส่วนใหญ่เสนอแนะว่าควรจะมีการเพิ่มโทษเมาแล้วขับจากเดิมปรับ 5,000 บาท และรอลงอาญา เป็นปรับเงินให้มากขึ้นและเปลี่ยนเป็นโทษกักขังแทน ส่วนผู้ที่ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เสนอให้เพิ่มโทษ ลงโทษหนักขึ้น เช่น ยึดใบอนุญาตขับขี่ ติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติบนถนนสายสำคัญทั่วประเทศ” นพ.ธนะพงศ์ กล่าว.

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

979/22,26 ชั้น 15 อาคาร เอส.เอ็ม.ทาวเวอร์ ถนนพหลโยธิน

แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานครฯ 10400

www.thaihealth.or.th Tel. 02-914-7439

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO