กรุงเทพมหานคร ร่วมกับกระทรวงความสัมพันธ์ภายในประเทศและการสื่อสาร ของประเทศญี่ปุ่น (Ministry of Internal affairs and Communications of Japan หรือ MIC) ในการทดลองการใช้บริการเงินสดอีเล็กทรอนิกส์บนมือถือกับระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ โดยเป็นการเทคโนโลยีทางด้าน contactless IC Chip มาประยุกต์ให้เข้ากับวิถีการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนในกรุงเทพมหานครเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้จะมีการศึกษาหาข้อจำกัดและพัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไป
สำหรับรูปแบบที่จะนำมาทดลองใช้ในครั้งนี้แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ รูปแบบแรก เป็นการเดินทางขึ้นรถไฟฟ้าและการจับจ่ายซื้อสินค้า ด้วยเงินสดอีเล็กทรอนิกส์บนมือถือ หรือที่เรียกกันว่ากระเป๋าเงินสดบนมือถือ (Mobile wallet) โดยในการทดลองนี้จะเป็นการนำเครื่องโทรศัพท์มือถือของประเทศญี่ปุ่น ที่มี contactless IC Chip ฝังอยู่ในเครื่อง ไปสัมผัสกับเครื่องอ่านข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่า Reader/Writer ที่ประตูทางเข้าออกสถานีรถไฟฟ้า BTS เมื่อจะเดินทางขึ้นรถไฟฟ้า และที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์เมื่อจะซื้อสินค้า ทั้งนี้จะเปิดทดลองตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน ถึง วันที่ 9 ธันวาคม 2009 แบ่งเป็น 2 รอบในหนึ่งวัน และแต่ละรอบจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง สำหรับรูปแบบที่ 2 เป็นการทดลองบริการเสริมที่เรียกว่า “โทรุคะ” ซึ่งก็เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางด้าน contactless IC Chip เช่นกัน โดยบริการนี้จะช่วยให้ง่ายต่อการสื่อสารข้อมูลในแบบการสื่อสารทางเดียว (one way communication) เมื่อต้องการจะให้ข่าวสารความรู้ต่างๆ
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การทำลองระบบในครั้งนี้เป็นการนำเทคโนโลยีทางด้านโทรศัพท์มือถือและบัตรเงินสดมาประยุกต์ร่วมกัน ผ่านการใช้งาน IC Chip เป็นการแสดงให้เห็นว่าในอนาคตมือถือไม่ได้ใช้เพื่อการสื่อสารเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ซื้อสินค้า และจ่ายค่าโดยสารได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายตั๋วร่วมรถไฟฟ้า BTS รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT และ Monorail ของกรุงเทพมหานครที่จะดำเนินการในอนาคต ซึ่งหากสามารถเชื่อมโยงกับเครือข่ายของ Airport Link ได้ก็จะยิ่งเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี รวมทั้งหน่วยงานของรัฐยังสามารถใช้โทรศัพท์มือถือเป็นช่องทางหนึ่งในการสื่อสารกับประชาชนได้อีกด้วย