กทม. ไม่มีนโยบายไล่รื้อ เร่งตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาชุมชนพื้นที่สาธารณะริมคลอง

พฤหัส ๑๗ ธันวาคม ๒๐๐๙ ๑๕:๐๓
รองผู้ว่าฯ ทยา รับหนังสือเรียกร้องแนวทางแก้ปัญหาชุมชนสาธารณะริมคลอง ย้ำไม่มีนโยบายไล่รื้อชุมชน แต่การดำเนินการใดๆ ต้องยึดกรอบกฎหมาย และคำนึงถึงประชาชนเป็นสำคัญ โดยจะเร่งตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาร่วมกันโดยเร็ว

นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนางเพียงใจ วิศรุตรัตน รองปลัดกรุงเทพมหานคร และผู้เกี่ยวข้อง ประชุมร่วมกับผู้แทนเครือข่ายสลัม 4 ภาค ภายหลังมีประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่สาธารณะริมคลอง เดินทางมาชุมนุมเรียกร้องแนวทางแก้ปัญหาคนจนเมือง ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า

เครือข่ายสลัม 4 ภาค ยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ

กลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายสลัม 4 ภาค ราว 200 คน ได้รวมตัวกันบริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. เพื่อยื่นหนังสือถึงคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เรียกร้องแนวทางแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวชุมชนแออัดที่อาศัยอยู่บริเวณที่สาธารณะริมคลอง โดยกลุ่มผู้ชุมชุนได้ยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ได้แก่ 1. ให้ยุติการไล่รื้อชุมชน และหยุดใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการไล่รื้อชาวชุมชนแออัด โดยเฉพาะชุมชน ที่อยู่อาศัยในพื้นที่สาธารณะริมคลอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เขตใช้กฎหมายมาดำเนินการขับไล่ชาวบ้าน เช่น ชุมชนหลัง สน.ทองหล่อ ชุมชนเพชรคลองจั่น เขตบึงกุ่ม เป็นต้น 2. ให้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการออกโฉนดชุมชน เพื่อแก้ปัญหาการพิพาทเรื่องที่ดินระหว่างรัฐ กับชุมชนโดยให้ชุมชนมีสิทธิในที่ดิน ที่จะทำกิน และที่อยู่อาศัยอย่างมั่นคง โดยเครือข่ายสลัม 4 ภาค ได้เสนอชุมชนนำร่องในการจัดโฉนดชุมชนกับรัฐบาล จำนวน 3 ชุมชน ประกอบด้วย ชุมชนเพชรคลองจั่น เขตบึงกุ่ม ชุมชนโรงหวาย เขตสวนหลวง และชุมชนหลวงวิจิตร เขตคันนายาว 3. ให้ผ่อนปรนการปลูกบ้านตามโครงการบ้านมั่นคง โดยไม่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งเป็นอุปสรรคในการสร้างที่อยู่อาศัยของคนจน 4. ให้ตั้งคณะกรรมการร่วมกัน ระหว่าง กทม. และเครือข่ายสลัม 4 ภาค เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาให้เป็นไปตามข้อเสนอของเครือข่ายสลัม 4 ภาค

ย้ำกทม. ไม่มีนโยบายไล่รื้อชุมชน

นางทยา กล่าวว่า ตามที่ผู้แทนเครือข่ายสลัม 4 ภาค ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องแนวทางแก้ปัญหาคนจนเมือง และได้มีการหารือร่วมกัน ขอย้ำว่า กทม. ไม่มีนโยบายในการไล่รื้อชุมชนแต่อย่างใด เพียงแต่การดำเนินการต่างๆ ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และพิจารณาบนพื้นฐานความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นสำคัญด้วย โดยจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ประกอบด้วย ผู้บริหารกทม. สำนักงานเขตที่มีประชาชนอาศัยบริเวณที่สาธารณะริมคลอง เครือข่ายสลัม 4 ภาค และหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมธนารักษ์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ การไฟฟ้าแห่งประเทศไทย การประปานครหลวง ซึ่งจะเร่งดำเนินการได้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด และจะมีการประชุมคณะกรรมการครั้งแรกภายในเดือน ม.ค. 53 ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าคณะผู้บริหารกทม. จะลงพื้นที่ 2 ชุมชนที่กำลังประสบปัญหา คือ ชุมชนหลัง สน.ทองหล่อ เขตวัฒนา และชุมชนเพชรคลองจั่น เขตบึงกุ่ม เพื่อเข้าไปพบปะ พูดคุย รับฟังปัญหาของประชาชนในชุมชน พร้อมทั้งดูสภาพพื้นที่จริงก่อนการหารือแนวทางแก้ปัญหาร่วมกันต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ