1. การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) โดยเฉพาะการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีสาเหตุหนึ่งเนื่องมาจากกระแสคลื่นใต้น้ำที่เกิดมาจากการเดินเรือขนส่งสินค้า นอกเหนือจากสาเหตุอื่น ๆ อาทิ พื้นที่ริมตลิ่งเป็นดินปนทราย ซึ่งส่งผลต่อเวลาน้ำขึ้น — ลง ทำให้ดินยุบตัว ทั้งนี้ บทบาทของการขนส่งทางน้ำมีมากขึ้นต่อเนื่องทุกปีแน่นอน โดยเฉพาะการลดต้นทุนการขนส่งสินค้าให้ถูกลง ดังนั้น จะมีปริมาณการขนส่งสินค้าทางน้ำมากขึ้น จึงต้องเร่งวางระบบป้องกันมิให้ตลิ่งบริเวณริมแม่น้ำพังลงมา และสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
2. การปรับปรุงท่าเรือที่ให้บริการประชาชนในการคมนาคมทางน้ำในเขตกรุงเทพมหานคร ให้มีรูปโฉมที่มีความทันสมัย มีความสะดวกปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน เหมือนกับสถานีบริการรถไฟฟ้าที่น่าใช้บริการ นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับทางกรุงเทพมหานคร ในการดำเนินการปรับปรุงพื้นที่หลังท่าเรือ และจัดระบบการจำหน่ายสินค้าและบริการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่สัญจรทางน้ำมากขึ้นด้วย รวมทั้งการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ และป้ายจราจรทางน้ำอัจฉริยะ ที่เชื่อมต่อกับระบบจีพีเอสบนเรือโดยสาร
3. การเพิ่มจำนวนท่าเรือชายฝั่งให้มากขึ้น ตลอดจนการเน้นย้ำให้เกิดการบริหารที่มีประสิทธิภาพตลอดเวลา โดยรัฐจะสนับสนุนให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากความคล่องตัว และความสามารถในการแข่งขันที่สูงกว่าภาครัฐ ซึ่งท่าเรือชายฝั่งจะเป็นการสนับสนุนให้เกิดการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีมากขึ้น และจะเป็ฯส่วนสำคัญในการลดต้นทุนค่าขนส่งของประเทศให้น้อยลง
นอกจากนี้ ยังเน้นในเรื่องของความปลอดภัย ทั้งในส่วนของการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี รวมไปถึงความปลอดภัยทางด้านการท่องเที่ยว การคมนาคมทางน้ำ ของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2553 ที่จะถึงนี้ กระทรวงคมนาคมได้ประกาศให้เป็นปีแห่งความปลอดภัย ภายใต้ชื่อ “คมนาคมปลอดภัย สังคมไทยเป็นสุข” ซึ่งเป็นการรณรงค์ให้เกิดความปลอดภัยทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
“กระทรวงคมนาคม ขอความร่วมมือจากประชาชนทุกท่าน และผู้ประกอบการทั้งในส่วนของผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งทางน้ำ ทางบก และทางอากาศ ในการร่วมกันรณรงค์เรื่องความปลอดภัย ซึ่งจะประสบความสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือจากทุกคนอย่างแน่นอน” นายเกื้อกูลกล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่
โทร. 02 682 9880