นายวัลลภ พิชญ์พงศา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นครหลวงค้าข้าว จำกัด ผู้ส่งออกข้าวหอมมะลิอินทรีย์รายใหญ่ของโลก กล่าวว่า ปัจจุบันความต้องการข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์จากต่างประเทศมีเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกา โดยในปี 2553 คาดว่าจะเติบโตอีกประมาณ 10% ทำให้บริษัทฯ มีนโยบายที่จะขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้ทำสัญญาซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า หรือ Contract Farming กับเกษตรกรประมาณ 200 ราย ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและพะเยา ประมาณ 5,000 ไร่ ปัจจุบันมีการส่งออกประมาณ 1,300 ตันต่อปี และคาดว่าในปี 2553 บริษัทฯ จะส่งออกข้าวหอมมะลิอินทรีย์เพิ่มเป็น 1,500 ตัน
“บริษัทฯ ทำ Contract Farming 100% กับเกษตรกร ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรม มีรายได้แน่นอนแล้ว บริษัทฯ ยังมั่นใจได้ว่าจะมีผลผลิตที่มีคุณภาพส่งให้ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการทำ Contract Farming อย่างเป็นธรรมกับเกษตรกรนี่เองทำให้บริษัทฯ ได้รับรางวัล SR Mark (Social Responsibility Mark) จากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้มอบรางวัลนี้เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมในการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร ทั้งนี้ ในการขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้น บริษัทฯ จะยังคงใช้การทำ Contract Farming กับเกษตรกรเช่นเดิม” นายวัลลภ กล่าว
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ เป็นผู้สงออกข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพเป็นพิเศษเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี โดยเป็นรายแรกของไทยที่ผ่านมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของยุโรป และเพื่อควบคุมคุณภาพตรงนี้ไว้ บริษัทฯ จึงได้พัฒนาคุณภาพของเกษตรกรด้วยการให้ความรู้ ทั้งเทคนิคการผลิตและพาไปดูงานในพื้นที่อื่น ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับไม่ได้เกิดกับบริษัทฯ เพียงฝ่ายเดียว แต่เกษตรกรยังได้รับความรู้เพิ่ม ได้พัฒนาตัวเอง ทุกวันนี้เขาสามารถนำความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ เช่น รวมกลุ่มกันทำปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มรายได้แล้ว ยังนำไปพัฒนาคุณภาพสินค้าของเขาให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ขายได้ราคาดีขึ้นด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
อุษณีย์ ถาวรกาญจน์
บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด
โทร. 0 2354 3588 อีเมล : [email protected]