โดยกรุงเทพมหานครได้รับจัดสรรงบประมาณปี 2553 เป็นเงินทั้งสิ้น 2,845,314,000 บาท และกำหนดจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทุกวันที่ 10 ของเดือน ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 ซึ่งผู้สูงอายุสามารถรับเงินสดด้วยตนเอง หรือรับเงินสดโดยบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ์ หรือโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิ์หรือบัญชีเงินฝากธนาคารในนามบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ์
ผู้พิการลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพได้ถึงวันที่ 30 ม.ค. 53
พร้อมกันนี้ ดร.ธราดล ได้เปิดเผยถึงโครงการจัดสวัสดิการเบี้ยความพิการของกรุงเทพมหานครว่าในปีงบประมาณ 2552 กรุงเทพมหานครได้ให้ความช่วยเหลือผู้พิการไปแล้วทั้งสิ้น 7,194 ราย เป็นเงิน 43,595,640 บาท ส่วนปีงบประมาณ 2553 จะมีผู้พิการได้รับความช่วยเหลือ จำนวน 11,524 ราย เป็นเงิน 69,835,440 บาท ซึ่งเป็นงบอุดหนุนจากรัฐบาล 100%
ทั้งนี้ผู้พิการที่มีทะเบียนบ้านในพื้นที่กรุงเทพฯสามารถลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ 500 บาท ได้ตั้งแต่บัดนี้ - 30 ม.ค. 53 ที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต โดยในระหว่างวันที่ 3-30 ธ.ค. 52 จะเปิดให้ผู้พิการที่ยังไม่เคยมาลงทะเบียนหรือรับเบี้ยยังชีพคนพิการ นำเอกสารแสดงตัว อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวคนพิการมายื่นเพื่อลงทะเบียนได้ในวันและเวลาราชการ
สำหรับคนพิการที่ยังไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการสามารถขอใบรับรองความพิการได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 68 แห่งโรงพยาบาลสังกัดกทม. ทั้ง 9 แห่ง และจัดทำบัตรประจำตัวคนพิการที่ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 12 แห่ง ซึ่งกรุงเทพมหานครจะตรวจสอบเอกสารในระหว่างวันที่ 1-15 ก.พ. 53 และประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยความพิการในวันที่ 22 ก.พ. 53 จากนั้นจะพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต และจ่ายเงินเบี้ยความพิการทุกวันที่ 10 ของเดือน ซึ่งจะเริ่มจ่ายเบี้ยความพิการครั้งแรกในวันที่ 10 เม.ย. 53