กทม.เปิดศูนย์ขยะรีไซเคิลโรงเรียนบ้านบางกะปิ เป็นศูนย์กลางช่วยลดขยะเมือง

พฤหัส ๒๘ กรกฎาคม ๒๐๐๕ ๑๒:๑๕
กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--กทม.
เมื่อวันที่ 26 ก.ค.48 เวลา 14.30 น. ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดศูนย์บริหารการลดปริมาณมูลฝอย โรงเรียนบ้านบางกะปิ เขตบางกะปิ พร้อมมอบทุนสนับสนุนโครงการลดปริมาณขยะมูลฝอยให้โรงเรียนในพื้นที่เขตบางกะปิ จำนวน 11 โรงเรียน โดยมี นายธีระชัย เธียรสรรชัย ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม ผู้อำนวยการเขตกลุ่มเขตบูรพา คณะครู อาจารย์ ผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนบ้านบางกะปิ ร่วมพิธี
กรุงเทพมหานคร ตั้งเป้าที่จะลดปริมาณขยะมูลฝอยอย่างน้อยปีละ 10 % ดังนั้น สำนักสิ่งแวดล้อมจึงได้จัดตั้งศูนย์บริหารการลดปริมาณมูลฝอยในชุมชน โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายหลักเป็น 14 กลุ่ม ได้แก่ โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร โรงเรียนในสังกัดกรมสามัญศึกษา โรงเรียนของเอกชน วิทยาลัยและสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร โรงแรม มินิมาร์ท ตลาด สถานพยาบาล วัดและศาสนสถาน ชุมชน หมู่บ้านจัดสรร และอาคารสูงตั้งแต่ 8 ชั้นขึ้นไป โดยใช้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางสนับสนุนการลดและการแยกมูลฝอย 3 ประเภท ได้แก่ มูลฝอยเศษอาหาร มูลฝอยยังใช้ได้ และมูลฝอยอันตราย อีกทั้งสร้างจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนรู้รักษ์สิ่งแวดล้อม ขยายสู่ชุมชนต่างๆ ในพื้นที่
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์บริหารการลดปริมาณมูลฝอย มุ่งรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนในชุมชนร่วมกันลดปริมาณมูลฝอย พร้อมทั้งนำขยะที่ยังใช้ได้นำกลับมารีไซเคิลสร้างมูลค่าเพิ่มอีกครั้ง เพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด อาทิ เครื่องใช้ เครื่องประดับตกแต่ง ปุ๋ยเม็ด ปุ๋ยชีวภาพ เป็นต้น ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบในรอบระยะเวลาระหว่างเดือน ก.ย. 46 — มิ.ย. 47 และ ก.ย. 47 — มิ.ย. 48 ปรากฏว่า ช่วงเดือน ก.ย.47 — มิ.ย. 48 กทม.มีปริมาณขยะลดลง 10.4 % จากเดิมที่จะเพิ่มขึ้นทุกปี 3-4% ซึ่งนับได้ว่าช่วยบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งประหยัดงบประมาณในการจัดการขยะคิดเป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท/1 ตัน หรือ 1 ล้านบาท/วัน
ในส่วนของขยะอันตราย เช่น ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่ กระป๋องสเปรย์ หลอดฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งมีจำนวนสูงถึง 27 ตัน/วัน นั้น ที่ผ่านมาสามารถจัดเก็บได้เพียง 136 กิโลกรัม หรือคิดเป็น 0.5% ของขยะอันตรายทั้งหมด ดังนั้น กทม.จะหารือร่วมกับผู้ประกอบการผู้ผลิตขยะอันตราย เพื่อหาแนวทางในการกำจัดขยะอันตรายเหล่านี้ เกิดความรับผิดชอบร่วมกันในสังคม อีกทั้งลดภาระการจัดเก็บและทำลายขยะอันตรายของกทม. ที่สำคัญเพื่อสุขอนามัยที่ดีของพี่น้องประชาชน ซึ่งขณะนี้ กทม.ได้เจรจากับผู้ผลิตสินค้ายี่ห้อโตชิบา และ พานาโซนิค เพื่อให้รับซื้อขยะอันตรายที่ผลิตขึ้นไปทำลายหรือรีไซเคิลอีกครั้ง
สำหรับโรงเรียนบ้านบางกะปิ เป็นศูนย์บริหารการลดปริมาณมูลฝอยนำร่องแห่งที่ 3 ของกทม. เพื่อดำเนินการตามนโยบายลดปริมาณมูลฝอยของกทม. โดยแห่งที่ 1 ได้แก่ โรงเรียนวัดสุทธาราม เขตคลองสาน และแห่งที่ 2 ได้แก่ โรงเรียนวัดลาดปลาเค้า เขตลาดพร้าว--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ