‘ไอเอฟเอส แคปปิตอล’ ยื่นไฟลิ่ง ส่งท้ายปี 52 ขาย IPO 120 ล้านหุ้น หวังเข้าตลาดไตรมาส 2 ปี 53

จันทร์ ๒๘ ธันวาคม ๒๐๐๙ ๑๔:๒๓
ไอเอฟเอส แคปปิตอล’ แจ้งข่าวดีส่งท้ายปี 52 ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. แล้ว ตั้ง บล.เคที ซีมิโก้ เป็นที่ปรึกษาการเงินและแกนนำจัดจำหน่าย เตรียมขาย IPO 120 ล้านหุ้น หวังเข้าตลาดภายในไตรมาส 2 ปีหน้า ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 18,000 ล้านบาท “ตัน เล เยน” เผยจุดเด่น เป็นบริษัทที่มีเครือข่ายทั่วโลก อนุมัติวงเงินได้ภายใน 7-10 วัน แถมทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างสะดวก

นายตัน เล เยน กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสนอขายหุ้น (ไฟลิ่ง) ให้กับทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2552 และหลังจาก ก.ล.ต.อนุมัติ คาดว่าหุ้นของบริษัทจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ใม่เกินไตรมาส 2 ของปี 2553 โดยบริษัทได้แต่งตั้ง บล.เคที ซีมิโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและเป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยหุ้นสามัญที่จะเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) มีจำนวน 120 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 25.53 ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท บริษัทคาดว่าจะได้เงินจากการระดมทุนครั้งนี้ประมาณ 200 ล้านบาท และจะนำไปใช้ในการขยายฐานธุรกิจสินเชื่อแฟคเตอริ่ง และสินเชื่อทางการเงินอื่นๆ ให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทสำหรับปี 2552 ทั้งปีคาดว่าจะมียอดการใช้สินเชื่อประมาณ 13,500 — 14,000 ล้านบาท และคาดการณ์กำไรไว้ที่ 71 ล้านบาท ส่วนปี 2553 บริษัทตั้งเป้ายอดการใช้สินเชื่ออยู่ที่ 18,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 30

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นด้วยการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น โดยทุนชำระแล้วของบริษัทจะเพิ่มเป็น 470 ล้านบาท และเชื่อว่าบริษัทจะสามารถระดมเงินด้วยต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น บริษัทก็จะสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นด้วย

ปัจจุบัน บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้บริการด้านสินเชื่อแฟคเตอริ่งเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนในรูปแบบของการรับซื้อลูกหนี้ทางการค้า ทั้งที่เป็นการค้าในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีบริการทางการเงินรูปแบบอื่นๆ เช่น การรับรองตั๋วแอลซี/ทีอาร์ (Confirming LC/TR), สินเชื่อสินค้าคงคลัง, Contract Financing, Floor Plan, Block Discounting Line สำหรับผู้ประกอบการในทุกภาคธุรกิจทั้งขนาดกลาง ขนาดย่อม และธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมและการบริการ อาทิเช่น ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารและเครื่องดื่ม เวชภัณฑ์และยา กระดาษและบรรจุภัณฑ์ ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์ ธุรกิจบริการเช่นบริการจัดหางาน บริการรักษาความปลอดภัย เป็นต้น ซึ่งการให้สินเชื่อประเภทนี้เป็นการช่วยเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในกิจการให้กับผู้ประกอบการ เพิ่มความสามารถในการขยายกิจการ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้ด้วยความมั่นคง

กลุ่มบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล เป็นกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจการเงินจากประเทศสิงคโปร์ มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ ฟิลลิป แคปปิตอล กรุ๊ป (Phillip Capital Group) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำที่ประกอบธุรกิจด้านการเงิน ค้าหลักทรัพย์ และการบริหารจัดการกองทุน มีบริษัทในประเทศต่างๆ ทั้งในแถบทวีปยุโรปและเอเชียกว่า 11 ประเทศทั่วโลก มีบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญกว่า 2,000 คนในการบริหารและให้บริการแก่ผู้ประกอบการ ส่วน บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล(สิงคโปร์) ที่ถือว่าเป็นบริษัทแม่ของ ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) มีบริษัทในเครือกว่า 10 บริษัท โดยบริษัทที่ให้บริการด้านสินเชื่อแฟคเตอริ่งในภูมิภาคอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (สิงคโปร์) ถือหุ้นใน ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) กว่าร้อยละ 98 แต่ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของ ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) แล้ว สัดส่วนการถือหุ้นจะลดลงเหลือร้อยละ 73

นายตัน กล่าวอีกว่า จุดเด่นที่สำคัญของบริษัทคือการให้บริการที่รวดเร็ว กล่าวคือ บริษัทสามารถพิจารณาเอกสารประกอบการขอสินเชื่อและอนุมัติวงเงินได้ภายใน 7-10 วันทำการ และเมื่อลูกค้านำเอกสารทางการค้าเพื่อมาขอรับเงินรับชำระล่วงหน้าก่อน บริษัทสามารถโอนเงินให้ลูกค้าได้ภายใน 24 ชั่วโมง และวงเงินเบื้องต้นที่โอนให้อาจสูงถึงร้อยละ 90 ของมูลค่าในเอกสารทางการค้า บริการที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของบริษัทอีกอย่างหนึ่งก็คือ การทำธุรกรรมทั้งหลายผ่านระบบออนไลน์ (E-Factoring) อย่างสมบูรณ์แบบครบวงจร ลูกค้าจะได้รับความสะดวกรวดเร็วในการบริการ และสามารถตรวจสอบสถานะการโอนเงิน หรือ สถานะทางบัญชีของตนเองได้แบบ real time บริษัทอยู่ในธุรกิจแฟคเตอริ่งมาเกือบ 20 ปี จึงมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ มีความยืดหยุ่นสูงในการพิจารณาวงเงินสินเชื่อ ด้วยการบริการที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจในการใช้บริการของบริษัทอย่างต่อเนื่อง

เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดยบริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัดในนาม บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ: วารุณี คำไชย (แนน) โทร: 0-2248-7967-8 ต่อ 119

e-mail : [email protected] ,[email protected] www.mtmultimedia.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ