ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. บีเอสแอล ลีสซิ่ง” ที่ระดับ “BBB” แนวโน้ม “Stable”

อังคาร ๐๕ มกราคม ๒๐๑๐ ๐๘:๓๐
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท บีเอสแอล ลีสซิ่ง จำกัด ที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ การบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตและมูลค่าคงเหลือของสินทรัพย์ให้เช่าในระดับที่ยอมรับได้ ตลอดจนการสนับสนุนด้านการเงินของผู้ถือหุ้นรายสำคัญของบริษัท อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนเนื่องจากบริษัทไม่มีสาขาที่สามารถให้บริการลูกค้าที่อยู่นอกบริเวณใจกลางกรุงเทพฯ ตลอดจนอัตราก่อหนี้ที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่น และการสนับสนุนด้านการเงินที่จำกัดจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งอาจจำกัดการขยายตัวของบริษัทในอนาคต ในขณะเดียวกัน สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่เอื้ออำนวยก็อาจเป็นอุปสรรคต่อการขยายธุรกิจและจำกัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในอนาคตด้วยเช่นกัน

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องจากผู้ถือหุ้นรายสำคัญ รวมทั้งสามารถรักษาฐานลูกค้าปัจจุบันและสร้างกำไรจากการขายสินทรัพย์ให้เช่าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนความคาดหมายที่คณะผู้บริหารของบริษัทจะสามารถรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีและคงต้นทุนทางการเงินในระดับที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์เอาไว้ได้แม้ภาวะแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะมีโอกาสสูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทบีเอสแอล ลีสซิ่ง ก่อตั้งในปี 2528 โดยการร่วมทุนในสัดส่วน 50:50 ระหว่างธนาคารกรุงเทพและบริษัทในกลุ่มกับ Sumitomo Mitsui Banking Corporation ประเทศญี่ปุ่น (เดิมชื่อ Mitsui Taiyo Kobe Bank) เพื่อดำเนินธุรกิจลีสซิ่งและสินเชื่อเช่าซื้อ และในปี 2547 ได้ขยายสู่ธุรกิจแฟคตอริ่ง การปรับโครงสร้างภายในของกลุ่มธนาคารกรุงเทพในปี 2548 มีผลทำให้ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) (ปัจจุบันคือธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)) เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทในสัดส่วน 10% ในขณะที่ผู้ถือหุ้นในกลุ่มธนาคารกรุงเทพมีสัดส่วนลดลงเหลือ 40% อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 ธนาคารกรุงเทพก็ซื้อหุ้นจำนวน 10% คืนมาจากธนาคารซีเอ็มบี ไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่ธนาคารกรุงเทพจะให้การสนับสนุนบริษัทต่อไป

บริษัทเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อและลีสซิ่งอุปกรณ์และเครื่องจักรในลำดับที่ 6 ในจำนวนผู้ให้บริการรายใหญ่ 12 รายในฐานข้อมูลของ

ทริสเรทติ้งปี 2551 โดยสินเชื่อคงค้างของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจาก 2,383 ล้านบาทในปี 2547 เป็น 4,192 ล้านบาทในปี 2551 และอยู่ที่ 4,094 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2552 ด้วยเหตุที่บริษัทไม่มีสาขาอื่นนอกจากสำนักงานใหญ่เพียงแห่งเดียวจึงทำให้ลูกค้าของบริษัทจำกัดอยู่เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และบริเวณใกล้เคียง ซึ่งข้อจำกัดนี้ทำให้บริษัทมีการกระจายความเสี่ยงในแง่ของที่ตั้งสาขาที่ต่ำกว่าสถาบันการเงินรายใหญ่อื่นๆ

ทริสเรทติ้งกล่าวว่าในปี 2551 บริษัทบีเอสแอล ลีสซิ่ง ได้ปรับปรุงนโยบายด้านบัญชีในการบันทึกค่าเสื่อมราคาโดยเปลี่ยนวิธีคำนวณค่าเสื่อมราคาจากวิธีผลรวมจำนวนงวดเพื่อลดราคาตามบัญชี (Sum-of-the-Years’ Digits) เป็นวิธีเส้นตรง (Straight Line) ซึ่งการปลี่ยนโยบายด้านบัญชีดังกล่าวทำให้ในปี 2551 บริษัทมีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่กำไรจากการขายสินทรัพย์ให้เช่าลดลง ในปี 2551 โดยรายได้สุทธิ (ปรับจากรายได้สุทธิของธุรกิจให้เช่าดำเนินงาน) อยู่ระหว่าง 100-300 ล้านบาทในปี 2546-2550 ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 618 ล้านบาทในปี 2551 และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2552 อยู่ที่ 399 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ยในระดับสูงที่ 26.79% ในปี 2549 ระดับ 28.19% ในปี 2550 ระดับ 48.71% ในปี 2551 และ 24.82% (ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2552 นอกจากนี้ ปัจจัยอีกประการหนึ่งที่ส่งผลให้บริษัทมีอัตราส่วนผลตอบแทนที่ดีคือการมีต้นทุนทางการเงินที่ค่อนข้างต่ำ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2552 มากกว่า 73% ของหนี้เงินกู้ของบริษัทเป็นการกู้ยืมระยะสั้น การที่บริษัทบริหารมูลค่าคงเหลือของสินทรัพย์ให้เช่า (Residual Value) ที่มีประสิทธิภาพทำให้บริษัทสามารถสร้างรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยคือกำไรจากการ ขายสินทรัพย์ให้เช่าดังกล่าวอย่างต่อเนื่องยกเว้นปี 2551 บริษัทมีรายได้ส่วนนี้คิดเป็น 22%-23% ของรายได้สุทธินับตั้งแต่ปี 2548 ถึง 9 เดือนแรกของปี 2552 ซึ่งจัดว่าสูงเมื่อเทียบกับรายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลัก บริษัทมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ให้เช่าอย่างต่อเนื่องที่ระดับ 72 ล้านบาทในปี 2549 73 ล้านบาทในปี 2550 32 ล้านบาทในปี 2551 และเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 83 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2552

ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินที่ปรับปรุงใหม่หลายฉบับเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2551 โดยหนึ่งในระเบียบดังกล่าวกำหนดให้สถาบันการเงินจำกัดการให้สินเชื่อแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องที่สถาบันการเงินดังกล่าวถือหุ้นเกิน 10% ได้ไม่เกิน 5% ของเงินกองทุนของสถาบันการเงิน หรือไม่เกิน 25% ของหนี้สินทั้งหมดของบริษัทที่เป็นลูกหนี้ ซึ่งแล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า ผลจากประกาศดังกล่าวทำให้สภาพคล่องและความยืดหยุ่นในการหาแหล่งเงินทุนของบริษัทมีข้อจำกัดมากขึ้นเนื่องจากในขณะนั้นบริษัทพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากธนาคารกรุงเทพเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม บริษัทได้กระจายแหล่งเงินทุนไปยังสถาบันการเงินอื่นมากขึ้นในปี 2552 โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2552 จากจำนวนหนี้สินรวม 3,418 ล้านบาทเป็นสัดส่วนเงินกู้จากผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทคือธนาคารกรุงเทพ 20% และ Sumitomo Mitsui Banking Corporation สาขากรุงเทพฯ 26%

บริษัทบีเอสแอล ลีสซิ่ง มีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีแม้จะมีลูกค้าหลักเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งเป็นกลุ่มที่มักจะมีความผันผวนต่อภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง บริษัทมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ค้างชำระเกิน 3 เดือน) ต่อเงินให้สินเชื่อรวมถัวเฉลี่ยที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นที่ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิต ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อัตราส่วนดังกล่าวอยู่ในระดับสูงสุดที่ 3.47% ในปี 2549 และลดลงอย่างต่อเนื่องสู่ระดับ 2.90% ในปี 2550 และ 2.74% ในปี 2551 และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.98% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2552 อย่างไรก็ตาม สิ่งท้าทายสำหรับบริษัทคือการรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีเอาไว้ให้ได้ในช่วงการขยายสินเชื่อเนื่องจากสถานะเครดิตของลูกค้าของบริษัทอาจได้รับผลกระทบในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทริสเรทติ้งกล่าว

บริษัท บีเอสแอล ลีสซิ่ง จำกัด (BSL)

อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ BBB

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version