ก.ล.ต. เปิดตัวโครงการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Programs)

ศุกร์ ๐๘ มกราคม ๒๐๑๐ ๑๔:๑๖
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ให้ตลาดทุนมีความคล่องตัวและสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ก.ล.ต. ได้จัดให้มีโครงการบริหารการเปลี่ยนแปลง หรือ Change Programs ตั้งแต่กลางปี 2552 เน้นการปรับเปลี่ยน 3 ด้าน กฎเกณฑ์การกำกับดูแล กระบวนการทำงานภายใน ปรับปรุงศักยภาพและกระบวนทัศน์ในการทำงานของบุคลากร นางปะราลี สุคนธมาน ผู้อำนวยการโครงการบริหารการเปลี่ยนแปลง ก.ล.ต. กล่าวถึงที่มาและวัตถุประสงค์ของโครงการว่า “โครงการบริหารการเปลี่ยนแปลงของ ก.ล.ต. จัดตั้งขึ้นเพื่อปรับปรุงกฎเกณฑ์ ขั้นตอน

การทำงาน รวมทั้งศักยภาพและกระบวนทัศน์ในการทำงานของบุคลากร เพื่อให้สามารถตอบรับและยืดหยุ่นต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อันจะเอื้ออำนวยให้เกิดนวัตกรรมในตลาดทุน (foster business innovation) และส่งเสริมความสามารถในแข่งขันของภาคธุรกิจ (promote competition) ซึ่งเป็นพันธกิจตามแผนกลยุทธ์ที่ ก.ล.ต. ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ สอดคล้องตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทยที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อเร็ว ๆ นี้ ”

โครงการบริหารการเปลี่ยนแปลงเน้นการปรับเปลี่ยนใน 3 ด้าน ได้แก่

1. ด้านกฎเกณฑ์การกำกับดูแล โดยมีแนวทางที่จะปรับเป็นการระบุหลักการและวัตถุประสงค์ (principle based) แทนการออกเป็นกฎเกณฑ์ที่ลงรายละเอียดและตายตัว ตัดกฎเกณฑ์ส่วนที่อาจเป็นการสร้างภาระแก่ภาคธุรกิจเกินจำเป็น รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับการให้ความคุ้มครองนักลงทุนจะเน้นการเปิดเผยข้อมูลให้มากขึ้นเพื่อให้ผู้ลงทุนนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจ (disclosure based) แทนการรอให้คุณสมบัติครบถ้วนก่อน (merit based) ตามที่ถือปฏิบัติอยู่ในปัจจุบัน

2. ด้านกระบวนการทำงาน โดยมีแนวทางที่จะผ่อนคลายข้อกำหนด ลดระยะเวลาและขั้นตอนการพิจารณา จัดลำดับความสำคัญของงาน และสนับสนุนให้ภาคเอกชนที่มีความพร้อมกำกับดูแลกันเอง (SRO) ในเรื่องมาตรฐานการประกอบธุรกิจและการกำกับดูแลเนื่องจากผู้ปฏิบัติย่อมมีความเข้าใจในเรื่องมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพเป็นอย่างดี โดย ก.ล.ต. จะกำกับดูแลอยู่ห่าง ๆ

3. ด้านศักยภาพและกระบวนทัศน์ของบุคลากร โดยมีแนวทางที่จะพัฒนาศักยภาพและปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของบุคลากรใน ก.ล.ต. ให้มีความเข้าใจต่อการเปลี่ยนแปลงและความคาดหวังของภาคเอกชน ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานอันจะส่งผลให้สามารถทำงานร่วมกับภาคเอกชนได้อย่างมีประสิทธิภาพโครงการย่อยภายใต้โครงการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มดำเนินการแล้วได้แก่ โครงการปรับปรุงระบบการทำงานเกี่ยวกับการออกตราสารทางการเงินใหม่ ๆ เพื่อให้มีการดำเนินงานในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น

โดยได้จัดตั้งคณะทำงาน Product Committee ซึ่งเป็นคณะทำงานภายใน ทำหน้าที่ติดตามพัฒนาการใหม่ ๆ ในต่างประเทศ วางแผนและติดตามให้มีการออกตราสารใหม่ตามแผนงานที่กำหนดไว้ และติดตามดูแลไม่ให้กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ออกไป เป็นอุปสรรคต่อการระดมทุนและบริหารความเสี่ยงของภาคเอกชน

สำหรับโครงการที่จะเริ่มมีผลในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ ได้แก่ โครงการทบทวนกระบวนการให้ความเห็นชอบบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ โดยลดระยะเวลาการพิจารณา แก้ไขคุณสมบัติที่ไม่จำเป็นออก และนำระบบเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว โดยยังคงวัตถุประสงค์ของการกำกับดูแลในการคุ้มครองผู้ลงทุนอยู่ครบถ้วน

นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่คาดว่าจะตามมาอีกในช่วงปีนี้ เช่น โครงการผ่อนคลายข้อกำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ต้องมายื่นขอความเห็นชอบหรือผ่อนผันเกี่ยวกับการดำเนินงานต่าง ๆ โครงการปรับปรุงกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการกำกับดูแลธุรกิจนายหน้าและตัวแทนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โครงการปรับปรุงกฎเกณฑ์เกี่ยวกับกองทุนและการกำกับดูแลธุรกิจจัดการลงทุน โครงการปรับปรุงกฎเกณฑ์และกระบวนการในการพิจารณาอนุมัติเสนอขายหลักทรัพย์ เป็นต้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ