“บริษัทดำเนินธุรกิจโดยเน้นการขายแฟรนไชส์ หรือสร้างอาชีพให้เถ้าแก่เล็ก 100% ข้าวมันไก่ห้าดาวนับเป็นธุรกิจน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว แต่เป็นเมนูอาหารที่คนไทยคุ้นเคยรับประทานกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยห้าดาวทำการพัฒนาสูตรทั้งในส่วนของข้าวและไก่ รวมถึงกระบวนการจัดการ ณ จุดขาย กระทั่งได้มาซึ่งกระบวนการจัดการที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว และที่สำคัญคือให้รสชาติที่อร่อยสม่ำเสมอเป็นมาตรฐานจึงนำเสนอสู่ผู้บริโภค” นายสถิตกล่าว และว่า
ข้าวมัน เป็นสูตรที่พัฒนาขึ้นโดยเลือกใช้ข้าวหอมมะลิมาเป็นวัตถุดิบ พร้อมทั้งสูตรลับพิเศษในวิธีการหุงข้าวจากห้าดาว คือหุงได้ข้าวมันที่หอม นุ่ม เป็นเม็ด และรสชาติอร่อย รวมถึงไก่ ที่ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดีสม่ำเสมอ พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดที่ให้รสชาติอร่อยเข้มข้น ตามสไตล์ อร่อย คุ้มค่า และปลอดภัยภายใต้แบรนด์ห้าดาว
นายสถิตกล่าวด้วยว่า บริษัทได้จัดทำแฟรนไชส์ตัวใหม่นี้ ด้วยจุดแข็งการควบคุมสินค้าที่มีมาตรฐานทั้งรสชาติ และ ความปลอดถัย ตั้งแต่ต้นทางจนถึงมือผู้บริโภค และไม่ต้องใช้งบลงทุนสูง ตามนโยบายสร้างอาชีพสนับสนุนเถ้าแก่เล็ก เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่สนใจในธุรกิจข้าวมันไก่ ในลักษณะรถโมบาย มีโต๊ะบริการ 3-4 ตัว ด้วยงบลงทุนสาขาละประมาณ 20,000 บาท โดยมี 5 รายการอาหาร ให้เลือกใช้บริการ ได้แก่ ข้าวมันไก่ ข้าวมันไก่สไปซี่ ข้าวมันไก่ย่าง ข้าวมันไก่โกลเด้นชิค และข้าวมันไก่สองสี (ไก่ต้มผสมไก่ทอด) ในราคาจานละ 27 30 35 30 และ 35 บาทตามลำดับ พร้อมกันนี้ยังมีของว่างให้เลือกใช้บริการ ทั้งไก่จ๊อห้าดาว นักเก็ตกุ้งห้าดาว นักเก็ตไก่ห้าดาว และเกี๊ยวซ่าห้าดาว ในราคาไม้ละ 23 27 พิเศษ 2 ไม้ 29 และพิเศษ 2 ไม้ 30 บาทตามลำดับอีกด้วย
ทั้งนี้ แนวทางการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ของบริษัทในปีนี้ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 12% หรือที่ 4,100 ล้านบาท โดยเน้นการสร้างแบรนด์เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภค และมุ่งขยายสาขาเพิ่มเติม 600 สาขา ด้วยงบลงทุน 150 ล้านบาท และงบทำกิจกรรมทางการตลาดอีก 130ล้านบาท ในธุรกิจภายใต้แบรนด์ห้าดาว ของบริษัท ทั้ง 5 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจไก่ย่าง, ไก่ทอด, ห้าดาวเรดดี่มีล, บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง และข้าวมันไก่.
สำนักสื่อสารและประชาสัมพันธ์ CPF
โทร.0-2625-7344-5
E-mail : [email protected]