ที่อเมริกา ปริศนาได้รับการศึกษาที่ดี ได้รับความรักความอบอุ่นจากวิรัชประหนึ่งลูกสาวแท้ๆ ทำให้ปริศนาเติบโตขึ้นเป็นสาวน้อยที่สดใส ร่าเริง มีความมั่นใจในตัวเองแบบเด็กฝรั่ง และมีความสามารถมากมาย ทั้งทางด้านดนตรี กีฬา และศิลปะ ปริศนากลับมากรุงเทพฯ เมื่อเธออายุได้ 19 ปี ด้วยความสวยและความเก่งรอบด้านทำให้ปริศนาเป็นหญิงสาวที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงมากที่สุดในวงสังคม
ขณะเดียวกันชายหนุ่มที่ได้รับการกล่าวขวัญมากที่สุดเห็นจะไม่มีใครเกิน ท่านชายพจน์ปรีชา ราชนิกูลหนุ่มหล่อเจ้าของวังศิลาขาวทายาทมรดกจำนวนมหาศาลของ เสด็จในกรมผู้ล่วงลับ ท่านชายมีขนิษฐาสุดสวาทเพียงคนเดียวคือท่านหญิงรัตนาวดี แต่ก็ได้อุปการะลูกภรรยาน้อยของน้าชายอีก 2 คน คือ ประวิช และ วิมล
ท่านชายให้ความไว้วางใจประวิชเหมือนน้องแท้ๆส่วนวิมลก็สนิทสนมกับท่านหญิงรัตน์
ประวิช รู้จักกับอนงค์พี่สาวผู้สงบเสงี่ยมเรียบร้อยของปริศนาที่หัวหิน เขาสนใจในตัวอนงค์ตามประสาชายหนุ่ม และติดตามมาเป็นแขกประจำของครอบครัวสุทธากุล แต่เมื่อประวิชได้พบกับปริศนาเขาก็หลงใหลในตัวเธอและเปลี่ยนใจมาชอบปริศนาแทนในขณะที่อนงค์หลงรักประวิชเข้าจริงๆ
ประวิช มักจะชวนปริศนาไปเล่นเทนนิสที่สโมสรด้วยกันกับเขาเสมอ จนวันหนึ่งปริศนาและท่านชายพจน์ได้พบกันปริศนามิได้ให้ความสนใจในตัวท่านชาย ในขณะที่ท่านชายรู้สึกประทับใจที่สาวสวยอย่างปริศนามีความเก่งรอบด้านทั้งสองไม่มีโอกาสสนทนากันทั้งๆที่เล่นเทนนิสคู่กัน
ต่อ มาปริศนาได้งานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนสิขาลัย โรงเรียนสตรีซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่เป็นนักเรียนประจำแก่นแก้วและหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือท่านหญิงรัตน์ และ วิมล เมื่อเห็นว่าครูคนใหม่ยังเป็นเด็กสาวอายุห่างกับตัวเองไม่มาก นักเรียนจึงไม่ให้ความเคารพในตัวปริศนา ท่านหญิงรัตน์นำขบวนเพื่อนๆจอมเฮี้ยวป่วนครูคนใหม่จนหัวปั่น แต่สุด ท้ายทุกคนก็ต้องยอมแพ้ในความน่ารักและทึ่งในสำเนียงภาษาอังกฤษแบบเจ้าของ ภาษาแท้ๆของปริศนาจนเธอกลายเป็นขวัญใจของนักเรียนทั้งโรงเรียนที่วังศิลาขาวท่านหญิงรัตน์ก็พูดถึงคุณครูปริศนาประวิชก็เพ้อถึงแต่ปริศนาจนท่านชายก็รู้สึกสนใจปริศนาไปด้วย
วันหนึ่งมีงานเต้นรำที่สโมสร ประวิชมาขออนุญาตคุณนายสมรพาปริศนาและพี่สาวทั้งสองของเธอไปด้วย ปริศนาพบกับท่านชายพจน์อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก และท่านชายได้ขอ เต้นรำกับเธอทำให้รตีพี่สาวต่างมารดาของประวิชซึ่งอยากจะเป็นชายาของท่านชาย จนตัวสั่นรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก หลังจากงานเต้นรำคืนนั้น
ประวิชได้ชวน ปริศนาให้มาร่วมกิจกรรมต่างๆในวังศิลาขาวมากขึ้น ทำให้ท่านชายได้ใกล้ชิดเห็นความฉลาดน่ารักของเธอและเกิดหลงรักปริศนาขึ้นทีละน้อยปริศนาก็รู้สึกประทับใจในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชายจนกลายเป็นความรักเช่นกัน
ประวิช หลงรักปริศนาจนถอนตัวไม่ขึ้น แต่ปริศนากลับเข้าใจว่าประวิชมาชอบอนงค์ เธอจึงให้ความสนิทสนมในฐานะเพื่อนและว่าพี่เขยมากกว่าจะคิดเป็นอื่น เมื่อถึงวันเกิดของปริศนา ประวิชได้ให้สร้อยข้อมือรูปหัวใจคู่ซึ่งปริศนาก็รับไว้ด้วยความเต็มใจ ทำให้ประวิชเข้าใจผิดคิดว่าปริศนามีใจให้เขา ประวิชตัดสินใจบอกรักปริศนา แต่เขาไม่กล้าบอกตรงๆ จึงขอให้อนงค์ช่วยบอกความในใจของเขาแก่ปริศนา อนงค์รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากแต่เธอไม่แสดงออกได้แต่บ่ายเบี่ยงไม่ยอมเป็นแม่สื่อให้
ประวิชจึงได้ขอให้ท่านชายช่วยพูดแทน ท่านชายซึ่งรู้ตัวว่ารักปริศนาเข้าให้แล้วก็จำเป็นต้องตัดใจจากปริศนาเพราะเห็นแก่ประวิชและหันมาทำหน้าที่พ่อสื่อ ปริศนาปฏิเสธความรักฉันท์ชู้ สาวของประวิช ท่านชายจึงต่อว่าปริศนาที่ยอมรับสร้อยข้อมือรูปหัวใจเหมือนเป็นการให้ท่า และทำให้ประวิชเข้าใจผิด ปริศนาโกรธประวิชและท่านชาย ทำให้ทั้งสองครอบ ครัวห่างเหินกันไป ท่านชายรู้สึกดีใจและมีความหวัง ในขณะที่ปริศนารู้สึกเสียใจเพราะคิดว่าท่านชายไม่ได้มีเยื่อใยกับตนแม้แต่น้อย ภายหลังประวิชได้มาสารภาพรัก
กับปริศนาด้วยตัวเอง ทำให้เขารู้แน่ว่าปริศนาไม่ได้รักเขา ประวิชจึงหันกลับไปหาอนงค์ตามเดิมด้วยความรักที่มีเป็นทุนเดิมทำให้อนงค์ตอบรักประวิชด้วยความดีใจ
ระหว่างนี้ สิรี พี่สาวคนรองของปริศนาชอบพอกับคุณเสมอลูกชายคหบดีเพื่อนของท่านชาย แต่เมื่อคุณเสมอขอให้พ่อมาสู่ขอสิรีพ่อของเขากลับปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าสิรีจนไม่คู่ควร และได้หาผู้หญิงไว้ให้เขาแล้ว สิรีเสียใจหลบหน้าไปอยู่จันทบุรีกับอุบลพี่สาวคนโตและพี่เขย ผู้หญิงที่พ่อคุณเสมอหาไว้คือ รตี แต่รตีปฏิเสธเพราะมีความหวังอยู่ที่ท่านชาย คุณเสมอจึงกลับไปหาสิรี แต่สิรีตัดใจแล้วและจะไม่ยอมรักใครอีก
หลังจากห่างเหินกับทางวังศิลาขาว ปริศนามีเพื่อนบ้านใหม่ คือครอบครัวของ นงลักษณ์ เจ้าของร้านตัดเสื้อที่สิรีทำงานด้วยครอบครัวของนงลักษณ์ประกอบด้วยอานนท์ พี่ชายนักเรียนนอกสุดโก้ และนพ น้องชายผู้ใฝ่รู้ทะเยอทะยาน ทั้งสองเป็นเพื่อนที่ดีของปริศนา นพอยากไปเรียนเมืองนอกอย่างพี่ชายแต่คุณพ่อส่งไม่ไหวจึงคิดสอบชิงทุนแต่แล้วก็ถูกกลั่นแกล้งจนไม่ได้ไปสอบ เมื่อนพมาปรึกษากับปริศนา เธอจึงขอความช่วยเหลือไปยังท่านชายพจน์ซึ่งท่านก็ช่วยเหลือในลักษณะของเงินกู้อย่างเต็มใจทำให้ปริศนารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง
ปริศนากับอานนท์สนิท กันมากขึ้นในฐานะเพื่อนและคนที่เคยอยู่เมืองนอกเหมือนกัน จนทำให้ท่านชายเข้าใจผิดฝ่ายรตีก็พยายามใกล้ชิดเพื่อเอาชนะใจท่านชายปริศนาเองรักท่านชายไม่น้อยไปกว่าที่ท่านรักเธอ แต่ด้วยความถือดี คิดว่าท่านชายมีเงินคอยแต่จะดูถูกผู้หญิงว่าวิ่งไล่จับท่าน ทำให้ปริศนาแข็งข้อกับท่านเสมอ จนสุดท้ายมีข่าวลือหนาหูว่าปริศนากับอานนท์รักและจะแต่งงานกันจริงๆ ท่านชายรู้ข่าวก็เสียใจหนีขึ้นไปเชียงใหม่ไปล่าสัตว์ที่เชียงราย
วันหนึ่งปริศนาก็ได้รับข่าวร้ายว่าท่านชายป่วยเป็นไข้ป่าอาการปางตาย และกำลังถูกส่งกลับมากรุงเทพฯ ปริศนารู้สึกเสียใจและรู้ใจตัวเองว่าท่านชายมีความสำคัญกับเธอมากขนาดไหน ปริศนามาดูแลท่านชายที่วังศิลาขาว ในคืนที่ความเป็นความตายเท่ากัน ปริศนาสารภาพรักกับท่านชายว่าเธอรักท่านชายมากแค่ไหน ทั้งสองจึงเข้าใจกันในที่สุด
อาการของท่านชายดีวันดีคืน เมื่อความรักของทั้งสองสุกงอมจึงมีการหมั้นกันอย่างเงียบๆแต่แล้วเรื่องก็ เข้าถึงหูคุณหญิงราชวรรลภแม่ของรตีที่อยากได้ท่านชายมาเป็นเขย คุณหญิงเอาความไปบอกเสด็จอา ญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวของท่านชายให้คัดค้านและใส่ไฟว่าปริศนาเป็นไพร่ ไม่มีชาติตระกูล ทำตัวเหลวแหลก มีคู่รักมากมายเสด็จอาจึงเรียกท่านชาย เข้าไปพบและถามความในใจ เมื่อรู้ว่าท่านชายรักปริศนาอย่างแท้จริง เสด็จอาจึงขอดูตัวปริศนาในงานเลี้ยงที่วังศิลาขาว เมื่อได้พบกับปริศนาเสด็จอาก็โปรดปริศนาถึงกับประทาน
สร้อยเพชรของตระกูล ให้เธอ คุณหญิงราชวรรลภ เห็นท่าไม่ดีจึงแฉเรื่องที่ปริศนาเป็นลูกไม่มีพ่อ แต่เหตุการณ์กลับเปลี่ยนไปเมื่อคุณอาวิรัชของปริศนาซึ่งเพิ่งกลับมาจากสหรัฐอเมริกาปรากฎตัวในงานพร้อมจดหมายรับรองฐานะของปริศนาที่พระวิจิตรมนตรีเขียนไว้ก่อนตายว่าปริศนาคือลูกของพระวิจิตร
เมื่อ ปริศนาในตัวหญิงสาวถูกไขจนหมดข้อกังขา งานแต่งงานระหว่างนางสาวปริศนาและท่านชายพจน์ปรีชาก็เกิดขึ้น เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดราวเทพนิยาย
ติดตามได้ในละครดังปริศนา ออกอากาศทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ (เริ่มจันทร์ที่ 18 ม.ค.53) เวลา 19.00 น. ทางช่อง มีเดีย แชนแนล เคเบิ้ลทีวีทั่วประเทศ