กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--ธอมสัน พับบลิค รีเลชั่นส์
ซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ ( CSP ) ศูนย์บริการเหล็กครบวงจรเข้าซื้อ — ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวน 100 ล้านหุ้น วันนี้ — 22 ธันวาคม 2548
นายวีรศักดิ์ ชัยสุพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ (“CSP”) ศูนย์บริการเหล็กครบวงจร เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้อนุมัติให้หลักทรัพย์ของบริษัทฯ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2548 เป็นต้นไป ในหมวดวัสดุก่อสร้าง ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “CSP”
“ทั้งนี้ บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 500 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 400 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ประชาชนทั่วไป ในราคาหุ้นละ 3 บาท ในวันที่ 14-15 ธันวาคม 2548 ที่ผ่านมา โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปแล้ว โครงสร้างการถือหุ้นมีการปรับคือ กลุ่มครอบครัวชัยสุพัฒน์ ซึ่งเป็น ผู้ถือหุ้นใหญ่ จะถือหุ้นในบริษัทฯ ร้อยละ 75.20 จากเดิมร้อยละ 94.00 โดยหุ้นทั้งหมดในส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมนี้จะติด Silent Period ทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนว่าผู้ถือหุ้นเดิมจะไม่ขายหุ้นทิ้งแน่นอน”
นายวีรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า “บริษัทฯ มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดุมทุนไปขยายกำลังการผลิต เพื่อซื้อเครื่องจักรในการผลิตท่อเหล็กรีดเย็น ขยายพื้นที่ และปรับปรุงอาคารโรงงานและที่ดิน รวมถึงเป็นเงินหมุนเวียนภายใน เพื่อผลิตสินค้าต่างๆ ให้ครอบคลุมตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น โดยเน้นการผลิตท่อเหล็กรีดเย็นเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ นอกจากนี้ ยังเน้นในเรื่องการบริการตรวจสอบด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าอย่างทั่วถึง และยังมุ่งขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเป็น “Quality Steel Sevice Center” คือเป็นศูนย์บริการเหล็กอย่างครบวงจรในอนาคต”
ทางด้าน บล. ซีมิโก้ ได้ประเมินมูลค่าหุ้นในปี 2549 ไว้เท่ากับ 3.75 บาทต่อหุ้น โดยประเมินมูลค่าหุ้นจากค่า Per เฉลี่ยของผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแปรรูปรายอื่นๆ ประมาณ 7 เท่า โดยคาดว่า บริษัทฯ ยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯ ประกอบกับการเริ่มรับรายได้จากผลิตภัณฑ์ท่อเหล็กรีดเย็น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2548 เป็นต้นไป
“ทั้งนี้ บริษัทฯ มีผลดำเนินงานในระยะ 9 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม — กันยายน) มีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,142.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.65% จากงวดเดียวกันของปี 2547 ซึ่งบริษัทมีรายได้รวม 1,403.6 ล้านบาท และบริษัทฯ มีกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของปี 2548 เท่ากับ 67.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 34.64 ล้านบาท ประมาณ 95.18% ผลประกอบการของ CSP ในปี 2548 จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา และคาดว่ากำไรในปีหน้าน่าจะดีขึ้น และยอดขายน่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 15 — 20 % ทั้งนี้ บริษัทฯ มีกลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1) กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ 30.3% 2) กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ 14.7% 3) กลุ่มเครื่องใช้ ไฟฟ้า 12.4% 4)กลุ่มท่อเหล็กและถังเหล็ก 9.5% 5) กลุ่มค้าส่ง 25.8% และอื่นๆ 7.4%”
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
ธอมสัน พับบลิค รีเลชั่นส์ โทร. 0-2260-0820 โทรสาร 0-2259-9246
คุณวงจันทร์ ตั้งทรงศักดิ์ ต่อ 8221 หรือ 0-9127-2089
คุณประสิทธิ์ กฤษฎาอริยชน โทร. ต่อ 8216 หรือ 0-1586-2819--จบ--
- พ.ย. ๒๕๖๗ CSP มีลุ้นรับงานเหล็กสำหรับทำเสา 4G หลังรู้ผลผู้ชนะประมูลคลื่นความถี่ พร้อมความต้องการใช้เหล็กปรับเพิ่มขึ้นตามนโยบายขยายโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ
- พ.ย. ๒๕๖๗ ข่าวซุบซิบ: หุ้นปันผลงาม กำไรโต
- พ.ย. ๗๙๙๐ ภาพข่าว: ผู้ถือหุ้น CSP อนุมัติแจกปันผลหุ้นละ0.16 บาท พร้อมจัดสรรกำไรสุทธิเป็นทุนสำรอง 8 ล้านบาท