นายศุภฤกษ์ หงKNภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาของสังคมไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนับวันจะมีจำนวน และทวีความรุนแรงมากขึ้น มีทั้งการกระทำความรุนแรงโดยการใช้กำลังทำร้ายร่างกาย การกระทำความรุนแรงทางเพศ ทางจิตใจ ทางสังคม และการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในชีวิตระหว่างคู่สมรส หรือระหว่างบุคคลที่อยู่ภายในครอบครัวเดียวกัน ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวส่วนใหญ่ ไม่อาจแก้ไขปัญหาให้ยุติลงได้ด้วยบุคคลในครอบครัว ทำให้สมาชิกในครอบครัวได้รับผลกระทบ และนำไปสู่ปัญหาสังคมอื่น ๆ ตามมา
กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ในฐานะหน่วยงานหลักในด้านการส่งเสริมสถาบันครอบครัว ได้เร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการผลักดันให้เกิดกลไกตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.๒๕๕๐ ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีเจตนารมณ์ที่จะคุ้มครองสิทธิผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว มุ่งให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแจ้งเหตุเมื่อพบเห็นการกระทำความรุนแรงในครอบครัว เพื่อแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดและรักษาความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว รวมทั้งให้ความ สำคัญกับผู้ประนีประนอม เพื่อทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทของบุคคลในครอบครัวให้ยุติได้อย่างสมานฉันท์ เป็นการช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐที่ไม่ต้องนำคดีขึ้นสู่ชั้นศาล ซึ่งเห็นได้จากสถิติคดีครอบครัวของศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดภูเก็ต ปี ๒๕๕๑ มีคดีเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย จำนวน ๓๙ เรื่อง ไกล่เกลี่ยสำเร็จจำนวน ๑๙ เรื่อง คิดเป็นทุนทรัพย์ ๙,๘๐๗,๗๑๙ บาท และปี ๒๕๕๒ ระหว่างเดือนมกราคม — พฤษภาคม มีคดีเข้าสู่การไกล่เกลี่ย จำนวน ๙ เรื่อง ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๗ เรื่อง คิดเป็นทุนทรัพย์ ๑๕,๐๘๙,๒๕๐ บาท เป็นต้น
“การจัดอบรมเสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้ปฏิบัติงานไกล่เกลี่ยประนีประนอมครั้งนี้ เป็นสมาชิกสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ผู้พิพากษาสมทบ ภาคีเครือข่ายภาคส่วนต่างๆ ของ พม. ผู้นำชุมชน และประชาชนทั่วไป จะได้รับความรู้ ทักษะ เกี่ยวกับ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.๒๕๕๐ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเทคนิคต่าง ๆ นำไปใช้ในการปฏิบัติงานร่วมกับ สหวิชาชีพ และเครือข่ายในชุมชน เพื่อไกล่เกลี่ยประนีประนอมยุติความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งจะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาข้อพิพาท หรือความขัดแย้งภายในครอบครัวให้บรรเทาลดน้อยลงได้ในโอกาสต่อไป” นายศุภฤกษ์ กล่าว