ตามที่กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นนโยบายสำคัญในการปกป้องสังคม นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้นายวิศาล วุฒิศักดิ์ศิลป์ รองอธิบดีฝ่ายปราบปราม นายเสรี ไทยจงรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม นายฉัตรชัย อ่อนศิริ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 1 ร่วมวางแผนและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่
วันที่ 26 มกราคม 2553 นายนิมิตร แสงอำไพ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 2 ส่วนสืบสวนปราบปราม 1 สำนักสืบสวนและปราบปราม กับพวก ร่วมกับนางสาวเพ็ญศรี วุฒิเศรษฐไพบูลย์ นายด่านศุลกากรมาบตาพุด และเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรมาบตาพุด ได้ร่วมกันตรวจสอบใบขนสินค้าขาออกเลขที่ A025-15301-09597 ของบริษัท แซม แอนด์ เจส จำกัด สำแดงชนิดสินค้าเป็น “ท่อเหล็กใช้ในกิจการปิโตรเลียม” ปริมาณ : 600 ชิ้น จำนวน 4 ตู้คอนเทนเนอร์ ผลการตรวจสอบพบ ไม้ลักษณะท่อนกลม,เหลี่ยม มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท
กรณีดังกล่าวเป็นความผิดฐานลักลอบส่งออกและสำแดงเท็จหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อกำกัด ตามมาตรา 99,27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ประกอบมาตรา 16, 17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 , พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 , พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้นำของกลางส่ง กรมศุลกากรเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อนึ่ง กรณีดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในการใช้ด่านศุลกากรมาบตาพุดเป็นฐานในการส่งออก แต่ด้วยการสืบสวนหาข่าวและการติดตามการลักลอบนำไม้ส่งออก ทำให้สามารถสืบทราบและนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว