ททท. อีสาน มาถูกทาง จัดอีสาน รีวิสิท โหมทำตลาดท่องเที่ยวต้นปี หวังบูมเที่ยวอีสาน รับกระแสโค้งสุดท้ายเที่ยวอีสาน 53

อังคาร ๐๒ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๐ ๑๓:๓๙
ททท. อีสาน โหมทำตลาดต้นปี จัดโครงการ I-San Revisit 2010 อวดเสน่ห์แหล่งท่องเที่ยวอีสาน ดึง 100 ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย และ 6 ประเทศเอเชีย เจรจาธุรกิจกับ 130 ผู้ประกอบการอีสาน ผลสำเร็จตามเป้า ยอดเจรจาธุรกิจทะลุเป้า รับกระแสโค้งสุดท้ายปีการท่องเที่ยวอีสาน 2553

นายสุภกิตติ์ พลจันทร ผู้อำนวยการกองตลาดภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “ททท. ได้ประกาศปีท่องเที่ยวอีสาน ตั้งแต่ปี 2551 — 2553 โดยตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา มุ่งเน้นสร้างการรับรู้ด้านการท่องเที่ยวภาคอีสานให้แก่ประชาชนทั่วไป ตลอดจนกระตุ้นและดำเนินกิจกรรมด้านการตลาดกับผู้ประกอบการในภาคอีสานและผู้ประกอบจากทั่วประเทศ ซึ่งสร้างกระแสความตื่นตัวให้กับผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก โดยในปี 2553 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการประกาศปีท่องเที่ยวอีสาน ททท. เน้นดำเนินกลยุทธ์ส่งเสริมการขายอย่างจริงจัง โดยการจัดโครงการ I-San Revisit 2010 ขึ้น ระหว่างวันที่ 26 — 30 มกราคม 2553 โดยเชิญผู้ซื้อคือ สมาคมท่องเที่ยวต่างๆ จากทั่วทุกภาค รวม 91 ราย รวมถึงเชิญบริษัทนำเที่ยวจากกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านแถบเอเชีย 6 ประเทศ ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น, จีน, เวียตนาม, มาเลเซีย, สิงค์โปร์ และฮ่องกง รวมทั้งสิ้น 71 ราย เข้าร่วมงาน โดยให้ผู้ซื้อได้เดินทางสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว “อีสานแหล่งเรียนรู้ อู่อารยธรรม” จากนั้นจึงเป็นการเสวนา โอกาสอีสานในตลาดท่องเที่ยว และจัดให้ผู้ซื้อได้พบกับผู้ขาย 19 จังหวัดภาคอีสาน ในลักษณะ Table Top Sale ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชาออร์คิด โดยมีเป้าหมายให้ผู้ประกอบการทั้งกลุ่มซื้อและผู้ขายได้ใช้เป็นเวทีพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมองลู่ทางทางธุรกิจในภาคอีสาน”

ทั้งนี้ ภายหลังจากสำรวจเส้นทาง กลุ่มผู้ซื้อได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ประกอบการและ ททท. ถึงความเป็นไปได้และโอกาสในการจัดเส้นทางท่องเที่ยวร่วมกัน “ โดย 80 % ของกลุ่มผู้ซื้อชาวต่างประเทศและชาวไทยพึงพอใจกับแหล่งท่องเที่ยวในภาคอีสานรวมทั้งรู้สึกไม่คาดคิดมาก่อนว่าในภาคอีสานมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจขนาดนี้ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อต่างประเทศ อันดับต้นๆ คือ เส้นทางไดโนเสาร์ โดย ผู้ซื้อจากมาเลเซีย, อินเดีย และเวียตนาม ให้ความสนใจกับแหล่งท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์, อุทยานประวัติศาสตร์หินพิมาย และพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน เห็นว่าเหมาะสมกับการจัดเป็น Educational Tour สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักเรียน นักศึกษา รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มาเลเซียยังไม่มี นอกจากนี้กลุ่มผู้ซื้อจากอินเดียยังให้ความสนใจแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของฟาร์ม โชคชัยเป็นพิเศษ เนื่องจากมีกิจกรรมที่หลากหลายและเหมาะกับกลุ่มครอบครัวเป็นอย่างมาก กลุ่มผู้ซื้อจากญี่ปุ่น เห็นว่าแหล่งท่องเที่ยวไดโนเสาร์ของภาคอีสานมีศักยภาพพอที่จะดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นในกลุ่มที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวแบบครอบครัว และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากับทัวร์ และหาก ททท. ต้องการเจาะกลุ่มตลาดญี่ปุ่น การจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวจำเป็นต้องมี Theme มี Concept ที่ชัดเจน จึงจะดึงดูดความสนใจตลาดญี่ปุ่นได้ กลุ่มผู้ซื้อจากประเทศสิงค์โปร์ ชื่นชอบ สามพันโบก จ.อุบลราชธานี เป็นอย่างมากและเห็นว่าน่าจะขายได้สำหรับสิงค๋โปร์ โดยเฉพาะกลุ่ม Young Generation กลุ่มนักเรียน ในลักษณะของ Education Trip ซึ่งสิ่งที่นักท่องเที่ยวชาวสิงค์โปร์ต้องการคือ อาหารดี ปลอดภัย ช้อปสนุก และผู้ซื้อจากฮ่องกง เห็นว่าหมู่บ้านช้าง จ.สุรินทร์ , ปราสาทหินพนมรุ้ง จะเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวฮ่องกง ขณะที่ผู้ซื้อชาวไทย จากภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศให้ความสนใจกับแหล่งท่องเที่ยวอีสานเป็น อย่างมาก การจัดงานครั้งนี้นับเป็นการนำเสนอภาพลักษณ์ด้านแหล่งท่องเที่ยวของอีสานที่น่าสนใจ และ เห็นว่าเมืองเชียงคาน จ.เลย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขายได้ แต่แสดงความเป็นห่วงถึงการอนุรักษ์เมือง เชียงคานให้มีความยั่งยืน ขณะที่ผู้ซื้อต่างประเทศมีข้อเสนอแนะ คือ ระยะทางระหว่างแหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่งค่อนข้างไกลกันมากใช้เวลานานเกินมาตรฐานการจัดทัวร์ จึงควรหาจุดแวะพักหรือกิจกรรม ให้นักท่องเที่ยวได้ทำระหว่างการเดินทาง รวมถึงความเข้าใจด้านอาหารฮาลาลของชาวอีสานซึ่งต้องปรับปรุงอีกระยะหนึ่ง”

ขณะที่ผู้ซื้อจากอินเดีย และฮ่องกง แสดงความสนใจอย่างจริงจังต่อการซื้อสินค้าทางการท่องเที่ยวจากอีสาน โดยเฉพาะฟาร์มโชคชัย ซึ่งได้เจรจาขอรายละเอียดเพื่อเซ็นสัญญาในอนาคตอันใกล้นี้

ทั้งนี้ นายสุภกิตติ์ กล่าวถึงผลที่ได้รับจากการดำเนินโครงการครั้งนี้ว่า “การจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการสร้างโอกาสการขายและเพิ่มพูนประสบการณ์การเจรจาการค้ากับผู้ซื้อต่างชาติให้กับกลุ่มผู้ขายสินค้าและบริการการท่องเที่ยวของภาคอีสาน รวมถึงสร้างการรับรู้และตอกย้ำถึงจุดเด่นทางการท่องเที่ยวในภาคอีสาน ซึ่งททท.ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยจากผลการวิเคราะห์เบื้องต้น การเจรจาธุรกิจ (Table Top) จากการจัดงาน I-San Revisit 2010 ครั้งนี้ การสอบถามและขอข้อมูล ผู้ขาย 1 ราย มีผู้ซื้อมาขอข้อมูลโดยเฉลี่ยประมาณ 21 ราย, การเจรจาต่อรอง มีการเจรจาเกิดขึ้นทั้งหมด ในงานประมาณ 300 ครั้ง, ทำสัญญาเบื้องต้น มีการทำสัญญาเบื้องต้นเกิดขึ้นทั้งหมดประมาณ 50 สัญญา (โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ) , เซ็นสัญญา มีการเซ็นสัญญาเกิดขึ้นทั้งหมด 6 สัญญา มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท (ส่วนใหญ่เป็นผู้ซื้อคนไทย) ”

การจัดงานครั้งนี้มียอดการซื้อขายในประเทศ 5 ล้านบาท และคาดว่ายอดการซื้อขายในต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทอย่างแน่นอน เนื่องจากบางรายยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาการค้า สำหรับกิจกรรมของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในปี 2553 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการประกาศปีท่องเที่ยวอีสานนั้น จะมุ่งเน้นการดำเนินกลยุทธ์ส่งเสริมการขาย เจาะกลุ่มเฉพาะ เช่น กลุ่มประชุมสัมมนาและองค์กร, ครอบครัว เยาวชน,ผู้สนใจพิเศษทางศาสนา โบราณคดี และกลุ่มผู้ด้อยโอกาสโดยเสนอกิจกรรม อาทิ การจัดรายการคาราวานรถยนต์ท่องเที่ยวอีสาน , กิจกรรมไดโนเสาร์แฟนคลับ และเตรียมจัดงานเทศกาลเที่ยวอีสาน หรือ Amazing I-San Fair 2010 โดยเชิญผู้ประกอบการสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในภาคอีสานร่วมแสดงสินค้าระหว่างวันที่ 18 — 21 กุมภาพันธ์ 2553 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สำหรับตลาดต่างประเทศ เน้นนักท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนเป็นหลัก รวมทั้งรุกตลาดใหม่ คือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน พร้อมเจาะตลาดยุโรปที่สนใจเรื่องวัฒนธรรม

สำหรับเป้าหมายทางการตลาดเมื่อสิ้นปี 2553 ของ ททท.ภูมิภาคตะวันออกฉียงเหนือนั้น คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 26.20 ล้านคน (ขยายตัวเฉลี่ย 5.93% ต่อปี) แบ่งออกเป็นชาวไทย 25.02 ล้านคน (ขยายตัวเฉลี่ย 5.91% ต่อปี) ชาวต่างประเทศ 1.18 ล้านคน (ขยายตัวเฉลี่ย 6.33% ต่อปี) ,รายได้ทาง การท่องเที่ยวรวม 47,300 ล้านบาท (ขยายตัวเฉลี่ย 11.28% ต่อปี) แบ่งออกเป็นชาวไทย 44,450 ล้านบาท (ขยายตัวเฉลี่ย 11.09% ต่อปี) ชาวต่างประเทศ 2,850 ล้านบาท (ขยายตัวเฉลี่ย 14.43% ต่อปี) , ระยะเวลาพำนักเฉลี่ย 2.75 วัน แบ่งออกเป็นชาวไทย 2.75 วัน ชาวต่างประเทศ 3.00 วัน และค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวัน 885 บาท (ขยายตัวเฉลี่ย 4.05% ต่อปี) แบ่งออกเป็นชาวไทย 864.56 บาท (ขยายตัวเฉลี่ย 3.92% ต่อปี) ชาวต่างประเทศ 1,412.18 บาท (ขยายตัวเฉลี่ย 6.03% ต่อปี)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

โทร 0 2682 9880

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ