ภายใต้ข้อตกลงซึ่งมีระยะเวลา 3 ปี เจ็ทสตาร์ กรุ๊ป ซึ่งประกอบด้วยสายการบินเจ็ทสตาร์ในออสเตรเลีย และสายการบินเจ็ทสตาร์ เอเชีย/แวลูแอร์ในสิงคโปร์จะเพิ่มเที่ยวบินที่มีอยู่เดิม และเปิดเส้นทางบินจากสิงคโปร์สู่จุดหมายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงการเตรียมให้บริการด้วยฝูงบินลำตัวแคบแอร์บัส เอ320 และลำตัวกว้าง เอ330-200 สู่เส้นทางระยะใกล้และไกล ตลอดจนการขยายเที่ยวบินแวะจอดและเที่ยวบินแบบแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินชางฮี
ในส่วนของซีเอจีจะเดินหน้าสนับสนุนการขยายการดำเนินงานของเจ็ทสตาร์ที่สนามบินชางฮี โดยมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ภายใต้แผนการพัฒนาการเติบโตของสนามบินชางฮี (Changi Airport Growth Initiative) ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2553 ส่งผลให้เจ็ทสตาร์มีต้นทุนในการดำเนินงานลดลง นอกจากนี้ เจ็ทสตาร์ยังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการให้บริการสู่จุดหมายปลายทางใหม่ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ให้แก่ผู้โดยสารในการเดินทางออกจากหรือแวะต่อเครื่องที่สิงคโปร์
ในฐานะที่เป็นพันธมิตรรายสำคัญ ซีเอจีจะผนึกกำลังร่วมกับเจ็ทสตาร์เดินหน้าสำรวจและขยายเส้นทางบินใหม่ๆ ที่ออกจากสนามบินชางฮี รวมทั้งให้การสนับสนุนด้านต่างๆ ตามความต้องการของเจ็ทสตาร์ อาทิ การขยายบริการภาคพื้นดิน และการเสริมสร้างประสบการณ์บริการภาคสนามบินใหม่ๆ ให้แก่ผู้โดยสาร ได้แก่ บริการเช็คอินล่วงหน้า
มร.ลี ซิว เฮียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซีเอจี กล่าวสนับสนุนการเป็นพันธมิตรระหว่างซีเอจีและเจ็ทสตาร์ว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เจ็ทสตาร์ได้เลือกใช้สนามบินชางฮีเป็นศูนย์กลางการบินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย เราพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของเจ็ทสตาร์ที่สนามบินชางฮีให้มีการเติบโตอย่างโดดเด่น
ทั้งทางด้านการขยายเส้นทางบินและการมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง การใช้ชางฮีเป็นศูนย์กลางการบินจะทำให้เจ็ทสตาร์ได้รับประโยชน์จากบริการเที่ยวบินร่วมกับสายการบินต่างๆ ที่มีเที่ยวบินสู่สิงคโปร์ได้มากขึ้น อาทิ สายการบินแควนตัสที่มีศูนย์กลางการบินที่สิงคโปร์” และเสริมว่า “ขณะเดียวกัน สนามบินชางฮีจะได้รับประโยชน์จากการขยายจำนวนเที่ยวบินและจุดหมายปลายทางของเจ็ทสตาร์
ซึ่งส่งผลให้มีการรับส่งผู้โดยสารมากขึ้น และมีเครือข่ายการเชื่อมโยงเที่ยวบินที่แข็งแกร่งขึ้น และที่สำคัญที่สุด การผนึกกำลังร่วมกันครั้งนี้จะช่วยให้ผู้โดยสารมีทางเลือกในการเดินทางกับสายการบินค่าโดยสารราคาประหยัดผ่านสนามบินชางฮีได้มากขึ้นด้วย การบรรลุข้อตกลงเป็นพันธมิตรร่วมกับเจ็ทสตาร์ตอกย้ำถึงปณิธานของซีเอจีที่มุ่งร่วมมือกับสายการบินพันธมิตรเพื่อเสริมสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจของทั้งสองฝ่ายที่สนามบินชางฮี”
ด้านมร. บรูซ บิวคานัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเจ็ทสตาร์กล่าวถึงข้อตกลงดังกล่าวว่า “จะช่วยสร้างลู่ทางการเติบโตให้แก่เจ็ทสตาร์และสายการบินในเครือที่มีเครือข่ายเส้นทางบินเชื่อมต่อกับประเทศสิงคโปร์ ทั้งยังเป็นการวางรากฐานสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนทั่วภูมิภาคเอเชียให้แก่เจ็ทสตาร์ในอนาคต”
“ปัจจุบัน สิงคโปร์มีความสำคัญต่อเจ็ทสตาร์และแควนตัส ข้อตกลงดังกล่าวช่วยให้เราได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการเปิดศูนย์กลางการบินขึ้นในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นจุดเชื่อมต่อสู่จุดหมายสำคัญต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย” มร. บรูซ กล่าวทิ้งท้าย
เจ็ทสตาร์เป็นผู้นำในตลาดสายการบินต้นทุนต่ำในภูมิภาคเอเชีย ให้บริการเที่ยวบินระหว่างสนามบินชางฮีและเมืองต่างๆ 23 แห่งรวมสัปดาห์ละ 408 เที่ยว เจ็ทสตาร์ตั้งเป้าขยายฝูงบินเพิ่มขึ้นเป็น 100 ลำภายในปี 2557-2558
เกี่ยวกับบริษัท ชางฮี แอร์พอร์ต กรุ๊ป
บริษัท ชางฮี แอร์พอร์ต กรุ๊ป หรือซีเอจี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 จากการแปรรูปการท่าอากาศยานชางฮี สิงคโปร์ (Singapore Changi Airport) มีหน้าที่ดูแลและบริหารสนามบินชางฮี ซึ่งเป็นสนามบินที่ได้รับรางวัลดีเด่นมากที่สุดของโลกทั้งทางด้านการบริหารจัดการการดำเนินการของสนามบิน การพัฒนาศูนย์กลางการบิน กิจกรรมด้านการพาณิชย์ และบริการฉุกเฉิน นอกจากนี้ ซีเอจียังขยายความสำเร็จจากการบริหารสนามบินชางฮีไปสู่การลงทุนและบริหารสนามบินในต่างประเทศผ่านบริษัท ชางฮี แอร์พอร์ตส อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ในปี 2552 สนามบินชางฮีให้บริการแก่ผู้โดยสารจำนวน 37.2 ล้านคน เฉพาะในเดือนธันวาคม 2552 มีผู้โดยสารเข้าใช้บริการสูงถึง 3.83 ล้านคน และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม เป็นต้นมา สนามบินชางฮีได้มีสายการบินจำนวน 85 รายเข้ามาแวะรับส่งผู้โดยสารจากสิงคโปร์ไปยังเมืองต่างๆ กว่า 200 แห่งใน 60 ประเทศทั่วโลก
เกี่ยวกับเจ็ทสตาร์
เจ็ทสตาร์คือสายการบินต้นทุนต่ำในเครือของแควนตัส กรุ๊ป โดยมีแควนตัส กรุ๊ปเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด แต่มีคณะผู้บริหารคนละชุดกับแควนตัส เจ็ทสตาร์มีสำนักงานใหญ่ในกรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยเริ่มเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2547 และได้ก้าวขึ้นเป็นสายการบินระยะไกลและมีต้นทุนต่ำรายใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งยังมีความคุ้มค่าในแง่ของรายได้สูงสุดของโลก นับตั้งแต่เปิดดำเนินการจนถึง ณ ขณะนี้ บริษัทได้ให้บริการรับส่งผู้โดยสารรวมทั้งสิ้นกว่า 50 ล้านคน เจ็ทสตาร์มีเที่ยวบินภายในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เที่ยวบินระหว่างประเทศจากประเทศออสเตรเลียสู่จุดหมายปลายทางต่างๆ และบริการภาคพื้นดินด่วนพิเศษในประเทศออสเตรเลีย สำหรับสายการบินเจ็ทสตาร์ เอเชีย/แวลูแอร์ (ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์) และเจ็ทสตาร์ แปซิฟิก (ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศเวียดนาม) มีแควนตัส กรุ๊ปเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 49% และ 27% ตามลำดับ
เจ็ทสตาร์ถือเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การเติบโตแบบ 2 แบรนด์ของกลุ่มแควนตัส ซึ่งประกอบด้วยการเป็นสายการบินระดับพรีเมี่ยม (สายการบินแควนตัส) และสายการบินต้นทุนต่ำ
ปัจจุบัน เจ็ทสตาร์ กรุ๊ปมีฝูงบินรวมทั้งสิ้น 60 ลำ ได้แก่ เครื่องบินตระกูลเอ320 จำนวน 48 ลำ (ซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินเอ320 จำนวน 34 ลำ และเอ321 จำนวน 5 ลำ ของสายการบินเจ็ทสตาร์ ออสเตรเลีย เครื่องบินเอ320 จำนวน 8 ลำของสายการบินเจ็ทสตาร์ เอเชีย และเครื่องบินเอ320 จำนวน 1 ลำของสายการบินเจ็ทสตาร์ แปซิฟิก) เครื่องบินเอ330-200 ระยะไกลจำนวน 7 ลำ และเครื่องบินบี737-400 อีก 5 ลำซึ่งประจำการในประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ เจ็ทสตาร์ยังได้สั่งซื้อและมีสิทธิ์จองซื้อเครื่องบินใหม่อีก 100 ลำ ปัจจุบัน เจ็ทสตาร์ให้บริการเที่ยวบินรวมทั้งสิ้นสัปดาห์ละ 1,900 เที่ยวสู่จุดหมายปลายทางมากกว่า 50 แห่งในประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก
เจ็ทสตาร์เป็นสายการบินที่ได้รับรางวัลนานาประเภท ทั้งยังได้รับเลือกจากสกายแทร็กซ์ให้เป็นสายการบินต้นทุนต่ำดีเด่นของโลกในปี 2550 สำหรับเว็บไซด์ Jetstar.com ของเจ็ทสตาร์ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเว็บไซด์การเดินทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศรีเบญจา/สาธิดา บ อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ จำกัด
โทร. 02 252 9871 อีเมล์ [email protected]