ทริสเรทติ้งทบทวนอันดับเครดิตเดิม “สยามพาณิชย์ลีสซิ่ง” และจัดอันดับหุ้นกู้ชุดใหม่ที่ระดับ “A-/Stable”

พุธ ๐๒ มีนาคม ๒๐๐๕ ๐๙:๓๖
กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ยืนยันผลการทบทวนอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท สยามพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกัน และอันดับเครดิตตั๋วแลกเงินในปัจจุบันของบริษัทในระดับเดิมที่ “A-” ในขณะเดียวกันได้จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกัน 4,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A-” พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” เช่นกัน อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะที่แข็งแกร่งของบริษัทในตลาดเช่าซื้อรถยนต์และประสบการณ์ของคณะผู้บริหาร อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนด้วยการแข่งขันที่รุนแรงเนื่องจากการเข้าสู่ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ของบริษัทผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อในเครือของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และการเข้าสู่ตลาดเช่าซื้อทั้งรถยนต์ใหม่และรถยนต์เก่าของบริษัทเงินทุน
ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความสามารถในการดำรงสถานะที่แข็งแกร่งของบริษัทในตลาดและสามารถรักษาระดับการขยายตัวของสินเชื่อต่อไปได้ตามความคาดหมายของทริสเรทติ้ง การมีคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์และกระบวนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่ระมัดระวังจะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาปริมาณหนี้ค้างชำระในระดับที่ยอมรับได้แม้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2547 เมื่อเทียบกับปี 2546 ก็ตาม
ทริสเรทติ้งรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2548 ทริสเรทติ้งได้จัดอันดับเครดิตระดับ “A-” ให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 3,500 ล้านบาทของบริษัทสยามพาณิชย์ลีสซิ่ง หลังจากนั้นบริษัทได้เพิ่มวงเงินหุ้นกู้ดังกล่าวเป็น 4,000 ล้านบาท ในการนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปชำระคืนหุ้นกู้มูลค่ารวม 3,250 ล้านบาทที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมีนาคมและพฤษภาคม 2548 ส่วนที่เหลือจะใช้ในการขยายสินเชื่อ บริษัทได้เงินเพิ่มทุนจำนวน 551 ล้านบาทจากการใช้สิทธิแปลงภาพใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นในเดือนธันวาคม 2547 โดยเงินทั้งหมดใช้ไปในการขยายสินเชื่อ สินเชื่อรวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 28.1% ในปี 2547 โดยเพิ่มจาก 29,152 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2546 เป็น 37,341 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2547 แม้อัตราการเติบโตในปี 2547 จะน้อยกว่าในปี 2546 ที่ระดับ 36.2% แต่ก็อยู่ในระดับที่ทริสเรทติ้งคาดไว้ตามอัตราการการเติบโตที่ลดลงของอุตสาหกรรมรถยนต์ กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น 8.8% ในปี 2547 มาอยู่ที่ 849 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอีก 2-3 ปีข้างหน้าแม้จะไม่มากเหมือนช่วง 3 ปีที่ผ่านมาก็ตาม บริษัทคาดว่าจะสามารถขยายสินเชื่อรวมให้สอดคล้องไปกับการเติบโตของอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 10%-15% ในปี 2548 ได้--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version