รศ.ดร.ชัยวิทย์ ศิลาวัชนาไนย ประกาศนำ สซ. เข้าสู่สากล พร้อมพัฒนางานวิจัยเคียงคู่สังคมทั้งภาครัฐ และเอกชน ในทุกภาคอุตสาหกรรม

จันทร์ ๐๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๐ ๑๔:๒๒
สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ภายใต้การบริหารงานโดย รศ. ดร.ชัยวิทย์ ศิลาวัชนาไนย ประกาศก้าวสู่ความเป็นสากล ดึงนักวิจัยจากต่างประเทศเข้าร่วมงานวิจัยกับสถาบันฯ พร้อมพัฒนางานวิจัยเคียงคู่หน่วยงานจากภาคธุรกิจ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ในทุกภาคอุตสาหกรรมไทย ตลอดจนเตรียมความพร้อมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการเทคโนโลยีซินโครตรอนระดับนานาชาติในปี 2554

รศ.ดร.ชัยวิทย์ ศิลาวัชนาไนย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดแถลงวิสัยทัศน์ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งบริหาร สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ว่า ตามที่ตนได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบัน ตามมติคณะกรรมการบริหารสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน มีผลนับแต่วันที่ 11 มกราคม 2553 ที่ผ่านมานั้น การดำเนินงานของห้องปฏิบัติการแสงสยาม สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ได้ดำเนินตามพันธกิจ ที่มุ่งผลสัมฤทธิ์สู่ความเป็น “สถาบันวิจัยแห่งชาติ ที่มีศักยภาพในการดำเนินการ และส่งเสริมการวิจัย เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน” ภายใต้การกำกับนโยบายของคณะกรรมการบริหารสถาบันฯ ทุกชุดทั้งในอดีตถึงปัจจุบัน ต่างได้วางรากฐานที่เข้มแข็งในด้านวิชาการและบริหาร พร้อมทั้งการพัฒนาศักยภาพกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเป็นห้องปฏิบัติการวิจัยให้เป็นที่ยอมรับในระดับชาติ และพร้อมที่จะก้าวสู่ความเป็นมาตรฐานสากลได้อย่างสมภาคภูมิในประชาคมวิจัยโลก

พุทธศักราช 2553 การดำเนินนโยบายบริหารจากนี้ไป จะมุ่งพัฒนาและขับเคลื่อนสถาบันในฐานะองค์การมหาชน ที่มุ่งสู่ผลลัพธ์ของงาน สอดประสานในทุกภารกิจ ทั้งการวิจัยและพัฒนา การใช้ประโยชน์จากแสงซินโครตรอน การให้บริการแสงซินโครตรอน การส่งเสริมการถ่ายทอด การสร้างความตระหนักรู้ในเทคโนโลยีแสงซินโครตรอน ด้วยการประสานภารกิจ ร่วมคิด ร่วมทำ ของบุคลากรทุกระดับ โดยจะยึดมั่นในมาตรฐานจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลักของสถาบัน มุ่งผลลัพธ์ของงานที่ตอบสนองผู้มีส่วนได้เสียตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงระดับประเทศ โดยจะร่วมกันการพัฒนา เสริมสร้างระบบบริหารงานให้ดียิ่งขึ้นตามหลักธรรมาภิบาล และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

รศ.ดร.ชัยวิทย์ กล่าวว่า “จากศักยภาพของเครื่องกำเนิดแสงสยามและกำลังบุคลากร ที่สามารถผลิตแสงซินโครตรอนให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง การพัฒนาและติดตั้งระบบลำเลียงแสงที่ตรงกับความต้องการของประชาคมวิจัยไทย เพิ่มขึ้นอีก 3 ระบบคือ ระบบลำเลียง Small Angle X-rays Scattering:SAXS เพื่อศึกษาโครงสร้างวัสดุในระดับนาโนเมตร เช่น โพลิเมอร์ หรือโปรตีน ระบบลำเลียง Photoelectron Emission Microscopy: PEEM เพื่อใช้ในการศึกษาพื้นผิวของวัสดุจากอิเล็กตรอนที่หลุดออกมาเมื่อแสงซินโครตรอนตกกระทบ

และระบบลำเลียงแสง X-ray Absorption spectroscopy/ ProteinCrystallo graphy เพื่อการศึกษาโครงสร้างของผลึกโปรตีน เป็นต้น การร่วมทุนสร้าง SUT-NANO-SLRI Beamline สำหรับงานวิจัยด้านนาโน รวมถึงความพร้อมถ่ายทอดวิศวกรรมย้อนรอยสู่ภาคเอกชน สถาบันฯ จะแสวงหาพันธมิตรทั้งภาควิชาการและอุตสาหกรรมให้มากยิ่งขึ้น พร้อมกับจะต้องแสดงบทบาทความเป็นเลิศในเวทีสากล โดยเพิ่มผลงานตีพิมพ์นานาชาติ และการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการเทคโนโลยีซินโครตรอนระดับนานาชาติในปี 2554 ที่จะถึงนี้”

งานประชาสัมพันธ์ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน

โทรศัพท์ 0-4421-7040 ต่อ 252 โทรสาร 0-4421-7404 อีเมล : [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ