ปภ.เชิญชวนส่งคำขวัญและสิ่งประดิษฐ์อัคคีภัย

นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 — 2552 ประเทศไทยมีแนวโน้มเกิดอัคคีภัยบ่อยครั้ง และสร้างความสูญเสียมากขึ้น กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย ในฐานะหน่วยงานกลางของภาครัฐด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ผลักดันให้นำแผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแห่งชาติไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกำหนดให้ปี 2553 เป็นปีแห่งการรณรงค์เพื่อการป้องกันอัคคีภัยในเคหสถานและสถานประกอบการ ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบการดำเนินโครงการฯ ดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2552 ดังนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ทุกภาคส่วน เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันอัคคีภัยอย่างเป็นรูปธรรม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระ มหาวิทยาลัย รวม 352 แห่ง ร่วมสนับสนุนการดำเนินโครงการฯ พร้อมจัดประกวดคำขวัญและสิ่งประดิษฐ์ เพื่อส่งเสริมกลไกการคิดและประดิษฐ์เกี่ยวกับการป้องกันอัคคีภัย ชิงรางวัลเงินสดพร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ คำขวัญ ต้องสื่อความหมายถึงการป้องกันอัคคีภัยในเคหสถานและสถานประกอบการอย่างชัดเจน ใช้ภาษาที่ถูกต้อง เหมาะสมตามอักขระการใช้ภาษาไทย จดจำได้ง่าย ความยาวไม่เกิน 25 คำ หมดเขตรับคำขวัญในวันที่ 31 มีนาคม 2553 สิ่งประดิษฐ์ อุปกรณ์และระบบเตือนภัยจากอัคคีภัย ผู้มีสิทธิ์ส่งผลงานเข้าประกวดต้องเป็นนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรืออาชีวศึกษา และระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า โดยแบ่งเป็นทีมๆ ละไม่เกิน 4 คน ในรูปแบบการประดิษฐ์คิดค้นขึ้นใหม่ หรือดัดแปลงปรับปรุงต่อยอดสิ่งประดิษฐ์เดิม ซึ่งแสดงออกถึงความรู้ และทักษะในการคิดค้น สามารถนำไปเป็นต้นแบบการผลิตในเชิงพาณิชย์ รวมถึงมีความสะดวกต่อการนำไปใช้งาน หมดเขตรับผลงานในวันที่ 30 กันยายน 2553 ทั้งนี้ กำหนดประกาศผลการประกวดในเดือนพฤศจิกายน 2553 ผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวดสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักนโยบายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หมายเลขโทรศัพท์ 0-2637- 3310-4 หรือดาวน์โหลดข้อมูลทางเว็บไซต์ www.disaster.go.th ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะได้นำคำขวัญที่ชนะเลิศไปใช้ในการรณรงค์การป้องกันอัคคีภัยทางสื่อต่างๆ ส่วนสิ่งประดิษฐ์จะนำไปรับปรุง และพัฒนาเพื่อผลิตในเชิงพาณิชย์ต่อไป