ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม มกราคม 2553 พุ่งเกิน 100 ต่อเนื่อง เดือนที่ 4 จี้รัฐเร่งสางปมมาบตาพุด

ศุกร์ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๐ ๑๔:๒๑
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย (Thai Industries Sentiment Index: TISI) ในเดือนมกราคม 2553 ที่ได้จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,140 ตัวอย่าง ครอบคลุม 39 กลุ่มอุตสาหกรรมของ สภาอุตสาหกรรมฯ ว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 115.4 ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนธันวาคม 2552 ที่ระดับ 113.6 ค่าดัชนีปรับตัวเกิน 100 เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 โดยเป็นผลมาจากองค์ประกอบดัชนีด้านยอดขายรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่องค์ประกอบด้านยอดคำสั่งซื้อรวมลดลง ทั้งนี้ภาวะการบริโภคในประเทศเริ่มทรงตัว และด้านการส่งออกยังคงขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังมีความเชื่อมั่นต่อต้นทุนประกอบการ จากการเปิดเสรีการค้าไทยอาเซียนซึ่งทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนในการนำเข้าส่งออกลดลง

สำหรับดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลงจากระดับ 111.5 ในเดือนธันวาคม 2552 อยู่ที่ระดับ 111.0 ในเดือนมกราคม 2553 สาเหตุเนื่องจากผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่ายอดคำสั่งซื้อรวม ยอดขายรวม และปริมาณการผลิตจะปรับตัวลดลงในอนาคต โดยผู้ประกอบการมองว่าจะมาจากการชะลอตัวลงของการอุปโภคบริโภคในประเทศเป็นสำคัญ ในขณะที่มองว่ายอดคำสั่งซื้อและยอดขายในต่างประเทศยังมีแนวโน้มดี

ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมจำแนกตามขนาดของกิจการ พบว่าอุตสาหกรรมขนาดกลางและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ปรับเพิ่มขึ้น โดยอุตสาหกรรมขนาดกลางปรับเพิ่มขึ้น เพราะยอดคำสั่งซื้อและยอดขายรวมปรับตัวสูงขึ้น อุตสาหกรรมขนาดกลางที่ค่าดัชนีปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นได้แก่ อุตสาหกรรมเหล็ก, เซรามิก, ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, พลังงานทดแทน ยา อุตสาหกรรมยาปรับตัวเพิ่มขึ้นสองเดือนติดต่อกัน จากยอดขายในประเทศสูงขึ้นจากสินค้าประเภท ยาเม็ด ยาน้ำ, ยาเวชภัณฑ์, ยาแคปซูลประเภทยาปฏิชีวนะ มีคำสั่งซื้อจากโรงพยาบาลสูงขึ้น และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมน้ำตาล , เคมี, เหล็ก, ปูนซีเมนส์, อาหาร ซึ่งสถานการณ์ในอุตสาหกรรมเหล็กปรับตัวดีขึ้นเพราะผู้ผลิตมียอดคำสั่งซื้อและยอดขายเพิ่มมากขึ้นจากงานก่อสร้างในภาคอสังหาริมทรัพย์ จึงทำให้อุตสาหกรรมเหล็กปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมในกลุ่มปูนซีเมนต์ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากยอดคำสั่งซื้อและยอดขาย ทำให้ผลประกอบการปรับตัวสูงขึ้น ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมขนาดย่อมทรงตัวเนื่องจากอุตสาหกรรมขนาดย่อมส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ โดยในเดือนมกราคมยอดคำสั่งซื้อในประเทศเริ่มปรับตัวลงเล็กน้อย ในขณะที่ปัจจัยอื่นๆทรงตัวจากเดือนที่ผ่านมา อุตสาหกรรมขนาดย่อมที่ค่าดัชนีปรับตัวดลง ได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอ, เครื่องจักรกลการเกษตร, หัตถอุตสาหกรรม

ด้านดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมรายภูมิภาค พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาคกลางและภาคตะวันออกปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ภาคอื่นปรับตัวลดลง โดยภาคกลางยอดขายของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ก๊าซ, ปูนซีเมนต์, อาหาร ,ยา, สมุนไพร, พลังงานทดแทน, เครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น อุตสาหกรรมก๊าซขยายตัวจากความต้องการใช้ที่สูงขึ้นตามการฟื้นตัวของการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ที่ใช้กำลังการผลิตสูงขึ้น และอุตสาหกรรมในกลุ่มเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น ที่มีการส่งออกไปยังยุโรปและออสเตรเลียมากขึ้น ส่วนอุตสาหกรรมใน ภาคตะวันออก ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ผลิตเพื่อการส่งออก ซึ่งยังคงขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกที่ค่าดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แก่ อุตสาหกรรมเหล็ก, พลาสติก, เคมี, เครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น, ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

ภาคเหนือ ปรับลดลงจากยอดคำสั่งซื้อและยอดขาย เช่นในกลุ่มหัตถอุตสาหกรรม มียอดจำหน่ายประเภทภาพวาด ผ้าปักลดลง อุตสาหกรรมในภาคเหนือที่ค่าดัชนีปรับลดลงได้แก่ หัตถอุตสาหกรรม, เครื่องจักรกลการเกษตร และสิ่งทอ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปรับตัวลดลงจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มียอดขายลดลง กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ที่มียอดคำสั่งซื้อและยอดขายในประเทศลดลง ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อและยอดขายในต่างประเทศยังคงปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้กลุ่มสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มก็มียอดขายลดลงจากเดือนที่ผ่านมา ซึ่งอุตสาหกรรมที่ค่าดัชนีปรับลดลง ได้แก่ อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม, ยานยนต์, ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ และภาคใต้ดัชนีความเชื่อมั่นยังทรงตัวเป็นผลมาจากองค์ประกอบด้านต้นทุนประกอบการปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งพบว่าอุตสาหกรรมยางมีความเชื่อมั่นด้านต้นทุนประกอบลดลง จากปริมาณน้ำยางลดลงเนื่องจากเข้าสู่ช่วงยางผลัดใบ นอกจากนี้วัตถุดิบจำพวกผลไม้บรรจุกระป๋องก็มีปริมาณลดลงจากการหมดฤดูกาลผลไม้ อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมหลักในภาคใต้มีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน

ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการจำแนกตามตลาดส่งออก (กลุ่มที่เน้นตลาดในประเทศ กับกลุ่มที่เน้นตลาดต่างประเทศ) ปรับเพิ่มขึ้นในทั้งสองกลุ่มตลาด โดยอุตสาหกรรมในกลุ่มที่เน้นตลาดในประเทศ ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับภาคอสังหาริมทรัพย์และงานก่อสร้าง ซึ่งมีการก่อสร้างมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา อุตสาหกรรมในกลุ่มที่เน้นตลาดต่างประเทศที่ค่าดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แก่ อุตสาหกรรมเหล็ก, ปูนซีเมนต์, หลังคาและอุปกรณ์, แกรนิตและหินอ่อน, พลังงานทดแทน, การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษ, การจัดการของเสียและวัสดุเหลือใช้ ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นฯกลุ่มที่เน้นตลาดต่างประเทศ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากตลาดส่งออกยังคงขยายตัวจากความต้องการสินค้าในต่างประเทศเป็นสำคัญ ซึ่งพิจารณาได้จากองค์ประกอบทั้งยอดคำสั่งซื้อและยอดขายในต่างประเทศยังคงปรับตัวสูงขึ้น อุตสาหกรรมในกลุ่มที่เน้นตลาดต่างประเทศได้แก่ อุตสาหกรรมเซรามิก, เฟอร์นิเจอร์, ผลิตภัณฑ์ยาง,เคมี, ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ,โรงเลื่อยและโรงอบไม้ อุตสาหกรรมโรงเลื่อยและโรงอบไม้ ได้รับผลดีจากสินค้าในกลุ่มไม้ยางพาราแปรรูปที่มียอดสั่งซื้อจากจีน มาเลเซีย และอินโดนีเซียสูงขึ้น

สำหรับด้านสภาวะแวดล?อมในการดําเนินกิจการ พบว่าผู้ประกอบการมีความกังวลในประเด็นผลกระทบจากสถานการณ์ราคาน้ำมันมากที่สุด เนื่องจากการปรับขึ้นของระดับราคาน้ำมันขายปลีกในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา รองลงมาคือความกังวลในสถานการณ์ทางการเมือง และสภาวะเศรษฐกิจโลก ตามลำดับ ในขณะที่มีความกังวลในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ยลดลง

และข้อเสนอแนะที่มี ต่อภาครัฐในเดือนนี้ ภาคเอกชนเห็นว่าโครงการมาบตาพุดมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งอาจทำให้เลือกที่จะไม่ขยายการลงทุนในอนาคต ดังนั้นผู้ประกอบการจึงอยากให้ภาครัฐแสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อปัญหามาบตาพุด เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมไทยในอนาคตต่อไป สนับสนุนการจัดหาแรงงานทั้งประเภทฝีมือและไร้ฝีมือ ส่งเสริมการฝึกช่างฝีมือ แก้ไขปัญหาทางการเมืองให้เกิดความสมานฉันท์ หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง และร่วมมือกันแก้ปัญหาเพื่อประชาชน และช่วยเร่งพัฒนาระบบโลจิสติกส์และสาธารณูปโภคพื้นฐาน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version