แทนด์เบิร์ก (TANDBERG)(OSLO: TAA.OL) รายงานผลการดำเนินงานก่อนตรวจสอบ (Unaudited) ประจำไตรมาส 4 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552
สรุปรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 52
- รายได้ 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+20%) ด้วยผลการดำเนินงานสูงเป็นประวัติการณ์ในทุกภูมิภาค
- กำไรจากการดำเนินงาน 60.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+14%)
- บัญชีเงินสด 306.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไม่มีหนี้สิน
- บริษัทและพันธมิตรไม่ได้รับอุปสรรคใดๆ จากการควบรวมธุรกิจกับซิสโก้
- แทนด์เบิร์กเป็นบริษัทแรกที่แสดงการเชื่อมต่อระบบการประชุมทางไกลเสมือนจริงแบบ 3 จอภาพกับระบบการประชุมทางไกลเสมือนจริงของซิสโก้ เทเลพรีเซนซ์ และยังเชื่อมต่อกับซอฟท์แวร์ Microsoft Office Communicator R2 ได้ด้วย
การเงิน
รายได้ของไตรมาส 4 ปี 52 อยู่ที่ 270.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาส 4 ปี 51 ซึ่งมีรายได้ 225.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกำไรขั้นต้นของไตรมาส 4 ปี 52 อยู่ที่ 65.3% เทียบกับ 66.6% ในไตรมาส 4 ปี 51 ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ในไตรมาส 4 ปี 52 อยู่ที่ 101.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 85.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 4 ปี 51 และกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 60.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 4 ปี 52 จากระดับ 52.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 4 ปี 51
สำหรับทั้งปี 2552 รายได้ของบริษัทอยู่ที่ 902.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 808.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2551 หรือเพิ่มขึ้น 12% ส่วนกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 193.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2552 เทียบกับ 176.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2551
บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 75.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 4 ปี 52 ซึ่งเมื่อหักกระแสเงินสดใช้จ่ายสุทธิจากการลงทุนจำนวน 14.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว ยอดรวมเงินสดที่รับเข้ามาจะอยู่ที่ 60.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 บริษัทมีบัญชีเงินสด 306.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไม่มีหนี้ โดยมีอัตราส่วนของทุนอยู่ที่ 64.0%
การดำเนินงาน
เฟดริค ฮัลวอร์เซ่น ซีอีโอของบริษัท กล่าวถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 52 ว่า “การดำเนินธุรกิจและการใช้จ่ายในช่วงสิ้นปีที่สอดคล้องกันช่วยให้ผลประกอบการไตรมาส 4 ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ที่สำคัญคือการที่บริษัทยังคงทุ่มลงทุนให้กับพนักงาน พันธมิตร และผลิตภัณฑ์ต่างๆอย่างต่อเนื่องนั้น ได้ช่วยให้บริษัทขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง โดยตลอดปี 2552 บริษัทได้ว่าจ้างและฝึกอบรมพนักงานอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทพันธมิตรผ่านโครงการฝึกอบรมและช่วยให้พันธมิตรสามารถเข้าถึงศูนย์สาธิตอันทันสมัยได้ถึง 29 แห่ง และยังลงทุนในการจำหน่ายโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ชั้นนำที่ได้รับการรับรองจาก JITC ส่งผลให้เครือข่ายของบริษัทขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นความมุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานเปิดและพัฒนาการประสานงานกับบริษัทอื่นยังช่วยให้บริษัทเชื่อมต่อระบบการสื่อสารทางไกลเสมือนจริงและการประชุมผ่านวิดีโอของบริษัทเข้ากับซอฟท์แวร์ Microsoft Office Communicator R2 และเรายังเป็นบริษัทแรกที่แสดงการเชื่อมต่อระบบการประชุมทางไกลเสมือนจริงแบบ 3 จอภาพกับระบบการประชุมทางไกลเสมือนจริงของซิสโก้ เทเลพรีเซนซ์ เพื่อให้การประสานงานระหว่างบริษัทต่อบริษัทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในปี 2552 แทนด์เบิร์กและพันธมิตรยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งแซงหน้าบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน และไม่มีอุปสรรคใดๆ เกิดขึ้นจากการควบรวมธุรกิจกับซิสโก้ โดยพนักงานของแทนด์เบิร์กต่างยินดีที่จะได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของซิสโก้ เพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ สู่ตลาดและสนับสนุนให้มีการใช้ระบบการสื่อสารผ่านวิดีโอและการประชุมทางไกลเสมือนจริงอย่างกว้างขวางมากขึ้นต่อไป ทั้งนี้ การควบรวมกิจการคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในครึ่งแรกของปี 2553 นี้”
ตลาด
ในไตรมาส 4 ปี 52 แทนด์เบิร์กจำหน่ายผลิตภัณฑ์เอนด์พอยท์ได้ 19,289 ยูนิต เทียบกับ 17,584 ยูนิตในไตรมาส 4 ปี 51 หรือเพิ่มขึ้น 10% ส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์เครือข่ายขยายตัว 39% หรือมีสัดส่วน 25% ของรายได้ทั้งหมด นอกจากนั้นบริษัทยังทำผลงานได้ดีเป็นประวัติการณ์ในทั้ง 3 ภูมิภาค
เอเชียแปซิฟิก
รายได้ในเอเชียแปซิฟิกช่วงไตรมาส 4 ปี 52 มีมูลค่ารวม 30.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับไตรมาส 4 ปี 51 ซึ่งมีรายได้ 25.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับในเอเชียเหนือนั้น บริษัทมีการดำเนินงานที่แข็งแกร่งทั่วประเทศจีนและญี่ปุ่น โดยทีมงานและผู้บริหารที่มีความเหมาะสมและการลงทุนอย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทประสบความสำเร็จหลายต่อหลายครั้งในภูมิภาคนี้
สำหรับในเอเชียใต้ บริษัทก็ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในภาคการดูแลสุขภาพ การเงิน และการป้องกันความปลอดภัย และมีฐานพันธมิตรที่แข็งแกร่งเช่นกัน
ทั้งนี้ การสร้างทีมงานและฐานพันธมิตรยังคงเป็นภารกิจหลักสำหรับธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก
การขยายตลาด
แทนด์เบิร์กมีความมุ่งมั่นในการสร้างชุมชนวิดีโอระดับโลกเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงวิดีโอคุณภาพสูงได้ และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว บริษัทต้องทำการเชื่อมต่อระบบเพื่อให้เกิดการสื่อสารระหว่างบริษัทกับบริษัท ซึ่งแทนด์เบิร์กก็เป็นเจ้าแรกที่นำเสนอโซลูชั่นใหม่ๆ สู่ตลาดมาโดยตลอด และที่สำคัญแทนด์เบิร์กยังเป็นบริษัทแรกที่แสดงการเชื่อมต่อระบบการประชุมทางไกลเสมือนจริงแบบ 3 จอภาพกับระบบการประชุมทางไกลเสมือนจริงของซิสโก้ เทเลพรีเซนซ์ รวมถึงเชื่อมต่อกับซอฟท์แวร์ Microsoft Office Communicator R2 ด้วย (ดูวิดีโอได้ที่: http://www.tandberg.com/media/index.jsp?id=1518 )
อัพเดทข้อมูลการควบรวมกิจการกับซิสโก้
แทนด์เบิร์กได้ยื่นเอกสารสัญญาข้อบังคับในทุกเขตอำนาจรัฐ และคาดว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้จะเสร็จสมบูรณ์ภายในครึ่งแรกของปีนี้ ส่วนการจ่ายค่าตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 14 วันหลังจากที่มีการยอมรับหรือปฏิเสธเงื่อนไขทั้งหมดที่มีการเสนอมา ซึ่งรวมถึงการอนุมัติจากคณะกรรมการด้านการกำกับดูแล
เกี่ยวกับแทนด์เบิร์ก
แทนด์เบิร์ก เป็นผู้นำระดับโลกในด้านผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับการสื่อสารทางไกลผ่านจอภาพ การประชุมทางไกลเสมือนจริง การประชุมผ่านวิดีโอคุณภาพสูง และการประชุมทางไกลผ่านโทรศัพท์มือถือ บริษัทมีสำนักงานใหญ่สองแห่งในนิวยอร์กและนอร์เวย์ นอกจากนี้ บริษัทมีหน้าที่ออกแบบ พัฒนา และทำการตลาดระบบและซอฟต์แวร์สำหรับการสื่อสารทางไกลผ่านจอภาพ เสียง และข้อมูล นอกจากนั้น บริษัทยังรับผิดชอบด้านงานขาย การสนับสนุนด้านเทคนิค และบริการเสริมอื่นๆ ในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ แทนด์เบิร์กจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสโล โดยใช้ชื่อย่อหุ้น TAA.OL ท่านที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tandberg.com
TANDBERG เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ส่วนชื่อผลิตภัณฑ์หรือบริษัทอื่นๆ ที่กล่าวถึงในที่นี้อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้นๆ
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ไนเลช ไพรแทม
โทรศัพท์: +65-6236-9231
มือถือ: +65-9369-5477
อีเมล: [email protected]
แหล่งข่าว: แทนด์เบิร์ก
-- เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --